ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันอังคาร (2 ก.ย.) สัญญาถั่วเหลืองทรุดตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบสัปดาห์ครึ่ง ปัจจัยหลักมาจากท่าทีของจีนที่ยังไม่ส่งสัญญาณสั่งซื้อผลผลิตฤดูกาลใหม่ของสหรัฐฯ ประกอบกับพยากรณ์อากาศที่คาดว่าจะมีฝนตกเพิ่มขึ้นในแถบมิดเวสต์ ซึ่งยิ่งตอกย้ำแนวโน้มว่าผลผลิตในฤดูกาลนี้จะมีปริมาณมหาศาล
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 2.75 เซนต์ หรือ +0.65% ปิดที่ 4.2300 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 6.00 เซนต์ หรือ -1.12% ปิดที่ 5.2825 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 13.50 เซนต์ หรือ -1.28% ปิดที่ 10.4100 ดอลลาร์/บุชเชล
ขณะเดียวกัน สัญญาข้าวโพดเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ๆ หลังตลาดกลับมาเปิดทำการจากช่วงวันหยุดยาววันแรงงานของสหรัฐฯ โดยแรงเทขายถูกสกัดไว้ด้วยความกังวลว่า ผลผลิตอาจไม่สูงตามคาดการณ์ เนื่องจากปัญหาโรคระบาดในบางพื้นที่และภาวะภัยแล้ง ซึ่งอาจกระทบต่อปริมาณผลผลิตที่กำลังจะเก็บเกี่ยวในฤดูใบไม้ร่วงนี้
ส่วนสัญญาข้าวสาลีปรับตัวลดลงเช่นกัน โดยได้รับแรงกดดันจากอุปทานปริมาณมากของผู้ส่งออกอย่างออสเตรเลียและรัสเซีย ประกอบกับการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์สหรัฐ
สถานการณ์ขณะนี้ทำให้เทรดเดอร์ธัญพืชต้องประเมินปัจจัยสองด้านสวนทางกัน ด้านหนึ่งคือการคาดการณ์ของกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA) ที่ว่าผลผลิตข้าวโพดและถั่วเหลืองจะทุบสถิติสูงสุด แต่อีกด้านหนึ่งก็มีรายงานประปรายถึงปัญหาโรคระบาดและภัยแล้งในหลายพื้นที่ นอกจากนี้เทรดเดอร์ยังคงจับตาพยากรณ์ฝนในสัปดาห์นี้ ซึ่งอาจเป็นประโยชน์ต่อพืชผลที่ยังเติบโตไม่เต็มที่