FAO เผยราคาอาหารโลกพุ่งสูงสุดรอบกว่า 2 ปีในเดือนส.ค.

ข่าวต่างประเทศ Saturday September 6, 2025 00:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) เปิดเผยในวันนี้ว่า ราคาอาหารโลกยังคงอยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปีในเดือนสิงหาคม เนื่องจากราคาเนื้อสัตว์ น้ำตาล และน้ำมันพืช ได้ปรับตัวขึ้น ขณะที่ราคาธัญพืชและผลิตภัณฑ์นมปรับตัวลง

ทั้งนี้ ดัชนีราคาอาหารของ FAO ซึ่งวัดการเปลี่ยนแปลงของราคาในตะกร้าอาหารหลักที่มีการซื้อขายระหว่างประเทศ อยู่ที่ 130.1 ในเดือนสิงหาคม จากระดับ 130.0 ในเดือนกรกฎาคม และสูงกว่าราว 7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2567

ดัชนีราคาอาหารที่ระดับ 130.1 นับเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2566 แต่ยังคงต่ำกว่าราว 18.8% เมื่อเทียบกับจุดสูงสุดที่ทำไว้ในเดือนมีนาคม 2566 หลังจากที่รัสเซียส่งกำลังทหารโจมตียูเครน

ราคาน้ำมันพืชเพิ่มขึ้น 1.4% ในเดือนสิงหาคม แตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 ปี โดยน้ำมันปาล์ม ดอกทานตะวัน และคาโนลา ได้แรงหนุนจากแผนของอินโดนีเซียที่จะเพิ่มสัดส่วนการผสมน้ำมันปาล์มในไบโอดีเซล ขณะที่น้ำมันถั่วเหลืองลดลงจากความคาดหวังอุปทานที่เพียงพอ

ราคาธัญพืชลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 โดยลดลง 0.8% จากเดือนกรกฎาคม โดยราคาข้าวสาลีลดลงจากผลผลิตจำนวนมากในสหภาพยุโรปและรัสเซีย ขณะที่ราคาข้าวโพดเพิ่มขึ้นจากความต้องการอาหารสัตว์และเอทานอลในสหรัฐที่สูงขึ้น ส่วนราคาข้าวลดลง อันเนื่องจากราคาข้าวของอินเดียที่ตกต่ำสุดในรอบ 3 ปี ท่ามกลางการแข่งขันรุนแรงในตลาดส่งออก

ดัชนีราคาเนื้อสัตว์เพิ่มขึ้น 0.6% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยมีแรงหนุนจากความต้องการเนื้อวัวจำนวนมากในสหรัฐและจีน ขณะที่เนื้อหมูทรงตัว และเนื้อไก่ลดลงเพราะมีอุปทานมากจากบราซิล

ราคาผลิตภัณฑ์นมลดลง 1.3% เนื่องจากราคาของเนย ชีส และนมผงร่วงลงจากความต้องการที่ชะลอตัวในตลาดเอเชีย

ราคาน้ำตาลเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.2% หลังจากปรับตัวลงต่อเนื่อง 5 เดือน เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับผลผลิตอ้อยในบราซิลและความต้องการทั่วโลกที่แข็งแกร่ง แม้มีการคาดการณ์ผลผลิตที่ดีขึ้นในอินเดียและไทย

นอกจากนี้ FAO คาดการณ์ว่า ผลผลิตธัญพืชโลกในปี 2568 จะทำสถิติสูงสุดที่ 2.961 พันล้านตัน เพิ่มขึ้นจาก 2.925 พันล้านตันก่อนหน้านี้ และคาดว่าจะสูงกว่าปีก่อนราว 3.5% ส่วนใหญ่เป็นผลจากแนวโน้มผลผลิตข้าวโพดที่ดีขึ้น

FAO คาดการณ์ผลผลิตข้าวโพดเพิ่มขึ้นในสหรัฐ บราซิล และเม็กซิโกจากผลผลิตต่อไร่ที่ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และพื้นที่เพาะปลูกที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ผลผลิตในสหภาพยุโรปคาดว่าจะลดลงจากสภาพอากาศแห้งแล้ง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ