ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันพุธ (24 ก.ย.) สัญญาถั่วเหลืองสหรัฐฯ ร่วงลงใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์ หลังจีนซึ่งเป็นผู้นำเข้ารายใหญ่ที่สุดของโลก เมินสั่งซื้อผลผลิตจากสหรัฐฯ และหันไปกว้านซื้อจากอาร์เจนตินาแทน
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 2.00 เซนต์ หรือ -0.47% ปิดที่ 4.2425 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1.00 เซนต์ หรือ -0.19% ปิดที่ 5.1950 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 3.00 เซนต์ หรือ -0.30% ปิดที่ 10.0900 ดอลลาร์/บุชเชล
ราคาถั่วเหลืองที่ร่วงลงได้ฉุดให้ราคาข้าวโพดปรับลดลงตาม อย่างไรก็ดี การปรับลดลงของราคาข้าวโพดยังอยู่ในกรอบจำกัด เนื่องจากมีรายงานผลการเก็บเกี่ยวช่วงแรกในเขตมิดเวสต์ที่ชี้ว่าผลผลิตอาจต่ำกว่าคาดการณ์ ขณะที่ราคาข้าวสาลีปิดในแดนลบเช่นกัน หลังแรงซื้อทางเทคนิคและแรงซื้อคืนเพื่อปิดสถานะขายชอร์ต (Short-Covering) แผ่วลง ประกอบกับแรงกดดันจากราคาข้าวโพดที่อ่อนตัว
ดอน รูส ประธานบริษัท U.S. Commodities ให้ความเห็นว่า "ตอนนี้ถั่วเหลืองเป็นตัวฉุดตลาดอย่างแท้จริง ปัจจัยสำคัญมาจากสถานการณ์ภาษีของอาร์เจนตินาที่กระตุ้นให้เกษตรกรเทขายผลผลิตออกมาอย่างหนัก ขณะที่จีนก็ยังไม่กลับมาซื้อสินค้าจากสหรัฐฯ ปัจจัยเหล่านี้สร้างแรงกดดันมหาศาลต่อตลาดถั่วเหลือง และดูเหมือนว่าจะดึงให้ตลาดข้าวโพดปรับตัวลงตาม"
แหล่งข่าวในแวดวงเทรดเดอร์เปิดเผยในวันพุธว่า กลุ่มผู้ซื้อจากจีนได้ทำสัญญาซื้อถั่วเหลืองจากอาร์เจนตินาไปแล้วประมาณ 20 ลำเรือ หลังจากที่รัฐบาลอาร์เจนตินาประกาศยกเว้นภาษีส่งออกถั่วเหลือง ธัญพืช และผลิตภัณฑ์พลอยได้เป็นการชั่วคราวเมื่อต้นสัปดาห์
มาตรการยกเว้นภาษีของอาร์เจนตินายิ่งตอกย้ำการเปลี่ยนแปลงของจีนที่หันไปพึ่งพาถั่วเหลืองจากอเมริกาใต้มากขึ้น ท่ามกลางข้อพิพาททางการค้าที่ยังคงยืดเยื้อกับสหรัฐฯ
ขณะเดียวกัน ตลาดถั่วเหลืองและข้าวโพดกำลังเผชิญกับแรงกดดันด้านอุปทานตามฤดูกาล เนื่องจากเป็นช่วงเริ่มต้นฤดูเก็บเกี่ยวในสหรัฐฯ แต่ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับปริมาณผลผลิตที่แท้จริงยังคงเป็นปัจจัยที่ช่วยพยุงราคาไว้
"ผมคิดว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับว่าเมื่อการเก็บเกี่ยวคืบหน้าไป ผลผลิตที่แท้จริงจะออกมาเป็นเท่าไร แน่นอนว่ามันต้องต่ำกว่าที่รัฐบาลประเมินไว้ แต่คำถามคือจะต่ำกว่ามากน้อยแค่ไหน" รูสกล่าวเสริม