ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันจันทร์ (13 ต.ค.) สัญญาถั่วเหลืองปิดบวกเล็กน้อย หลังจากถ้อยแถลงของผู้นำสหรัฐฯ ช่วยคลายความกังวลของเทรดเดอร์เกี่ยวกับความตึงเครียดทางการค้ากับจีนที่ปะทุขึ้นรอบใหม่ ขณะที่สัญญาข้าวสาลีและข้าวโพดปรับตัวลดลงจากแรงกดดันด้านอุปทานและการเก็บเกี่ยวผลผลิต
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 2.25 เซนต์ หรือ -0.54% ปิดที่ 4.1075 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1.75 เซนต์ หรือ -0.35% ปิดที่ 4.9675 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 1.00 เซนต์ หรือ +0.10% ปิดที่ 10.0775 ดอลลาร์/บุชเชล
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดียในช่วงสุดสัปดาห์ว่า สหรัฐฯ ไม่มีเจตนาที่จะ "ทำร้าย" จีน สอดคล้องกับที่สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์กับ Fox Business Network ว่า ทั้งสองฝ่ายได้มีการเจรจาหารือกันอย่างมีนัยสำคัญและคาดว่าจะมีการประชุมเพิ่มเติม ซึ่งถ้อยแถลงเหล่านี้ช่วยพยุงตลาด หลังจากที่เผชิญแรงเทขายอย่างหนักในวันทำการก่อนหน้า
ทั้งนี้ ความตึงเครียดระลอกล่าสุดปะทุขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดี (9 ต.ค.) หลังจากจีนประกาศจะยกระดับมาตรการควบคุมการส่งออกแร่หายาก (rare earth) โดยอ้างความกังวลด้านการนำไปใช้ทางการทหาร ซึ่งนำไปสู่มาตรการตอบโต้อย่างแข็งกร้าวจากทรัมป์ในวันศุกร์ (10 ต.ค.) ส่งผลให้ความสัมพันธ์ของสองชาติมหาอำนาจถดถอยลง
จิม เกอร์ลัค ประธานบริษัท A/C Trading ให้ความเห็นว่า "เทรดเดอร์ในตลาดมองว่านี่เป็นอีกหนึ่งปัจจัยกดดัน แต่ยังไม่ใช่อุปสรรคที่ถึงทางตัน"
สำหรับปัจจัยกดดันในตลาดธัญพืชอื่น ๆ นั้น สัญญาข้าวโพดเผชิญแรงกดดันจากการเทขายของเกษตรกรในช่วงฤดูเก็บเกี่ยว ประกอบกับการที่กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA) ไม่ได้เปิดเผยรายงานความคืบหน้าพืชผลตามปกติ ส่วนสัญญาข้าวสาลีถูกกดดันจากภาวะอุปทานล้นตลาดโลก การแข่งขันที่รุนแรงขึ้นจากการส่งออกของรัสเซีย และสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยในกลุ่มประเทศผู้ผลิต