ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันพฤหัสบดี (23 ต.ค.) สัญญาธัญพืชปิดบวกทั้งกระดาน โดยสัญญาข้าวสาลีพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ หลังได้แรงหนุนจากราคาในตลาดส่งมอบทันทีที่แข็งแกร่งขึ้น รวมถึงได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบ ข้าวโพด และถั่วเหลืองที่ปรับตัวขึ้น
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 5.00 เซนต์ หรือ +1.18% ปิดที่ 4.2800 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 9.25 เซนต์ หรือ +1.84% ปิดที่ 5.1300 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 10.00 เซนต์ หรือ +0.97% ปิดที่ 10.4475 ดอลลาร์/บุชเชล
สัญญาข้าวสาลี ข้าวโพด และถั่วเหลืองได้แรงหนุน หลังราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นกว่า 5% จากกรณีที่สหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรบริษัทน้ำมันรายใหญ่ที่สุด 2 แห่งของรัสเซีย ขณะที่นักวิเคราะห์ระบุว่า มาตรการดังกล่าวจะทำให้โรงกลั่นในจีนและอินเดียต้องหาซัพพลายเออร์รายใหม่ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในการถูกตัดออกจากระบบการเงินของชาติตะวันตก
คาดว่าหน่วยงานจัดหาธัญพืชของแอลจีเรียซื้อข้าวสาลีสำหรับทำแป้งประมาณ 600,000 ตันในการประมูลระหว่างประเทศเมื่อวันพฤหัสบดี ซึ่งอยู่ในระดับบนของช่วงคาดการณ์เบื้องต้น
สัญญาถั่วเหลืองปรับตัวขึ้นในวันพฤหัสบดีแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือน โดยได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้น และจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ แสดงท่าทีเชิงบวกเกี่ยวกับการบรรลุข้อตกลงกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ซึ่งทั้งสองมีกำหนดจะพบกันที่เกาหลีใต้ในสัปดาห์หน้า โดยทรัมป์ย้ำว่าการกลับมาซื้อถั่วเหลืองของจีนเป็นประเด็นสำคัญของการหารือในครั้งนี้
สัญญาข้าวโพดปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือนในวันพฤหัสบดี โดยได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่พุ่งแรง, ตลาดส่งมอบทันทีที่แข็งแกร่ง และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับปริมาณผลผลิตข้าวโพดของสหรัฐฯ
นอกจากนี้ แรงซื้อทางเทคนิคเพิ่มขึ้นในช่วงท้ายการซื้อขาย หลังจากราคาสัญญาเดือนธ.ค. ทะลุแนวต้านบริเวณ 4.25 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับที่กดดันราคามาหลายสัปดาห์ก่อนหน้า
ราคาข้าวโพดมักเคลื่อนไหวตามแนวโน้มของราคาน้ำมันดิบ เนื่องจากข้าวโพดเป็นวัตถุดิบหลักของการผลิตเอทานอลในสหรัฐฯ