ข้อมูลจากสำนักงานศุลกากรจีน (GACC) เปิดเผยในวันนี้ (20 พ.ย.) ว่า ยอดการนำเข้าถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ ของจีนในเดือนต.ค. เป็นศูนย์ ซึ่งเป็นการงดนำเข้าเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน ลดลงจากระดับ 541,434 เมตริกตันในช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ยอดการนำเข้าถั่วเหลืองโดยรวมของจีนจะพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์จากการสั่งซื้อล็อตใหญ่จากอเมริกาใต้ เพื่อป้องกันภาวะขาดแคลนอุปทานท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ
การลดลงของการนำเข้าถั่วเหลืองสหรัฐฯ เป็นผลมาจากการที่จีนเรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตราสูงเมื่อช่วงต้นปี ประกอบกับสต๊อกถั่วเหลืองฤดูกาลเก่าของสหรัฐฯ เริ่มหมดลง
ในทางตรงกันข้าม ยอดการนำเข้าถั่วเหลืองจากบราซิลในเดือนต.ค. พุ่งขึ้น 28.8% เทียบรายปี แตะที่ระดับ 7.12 ล้านตัน คิดเป็นสัดส่วน 75.1% ของยอดการนำเข้าทั้งหมด ขณะที่การนำเข้าจากอาร์เจนตินาเพิ่มขึ้น 15.4% แตะที่ 1.57 ล้านตัน
ทั้งนี้ จีนมียอดนำเข้าถั่วเหลืองรวมทั้งสิ้น 9.48 ล้านเมตริกตันในเดือนต.ค. ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดสำหรับเดือนต.ค.
สำหรับภาพรวมในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ต.ค.) จีนนำเข้าถั่วเหลืองจากบราซิลรวม 70.81 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 4.5% เทียบรายปี และจากอาร์เจนตินา 4.46 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 23.9% เทียบรายปี
อย่างไรก็ดี แม้ยอดนำเข้าล่าสุดจะลดลง แต่คำสั่งซื้อในช่วงต้นปี 2568 ส่งผลให้ยอดนำเข้าสะสมของถั่วเหลืองสหรัฐฯ ในปีนี้อยู่ที่ 16.82 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 11.5%
สถานการณ์ล่าสุดเริ่มมีสัญญาณบวก หลังจากจีนเริ่มกลับมาสั่งซื้อถั่วเหลืองสหรัฐฯ อีกครั้งภายหลังการเจรจาระหว่างผู้นำของทั้งสองประเทศที่เกาหลีใต้เมื่อปลายเดือนต.ค. โดยข้อมูลจากกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA) ระบุว่า COFCO ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจด้านธัญพืชของจีน ได้สั่งซื้อถั่วเหลืองสหรัฐฯ ไปแล้วกว่า 1 ล้านตันนับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนต.ค.
ขณะนี้ตลาดกำลังจับตาดูว่าจีนจะมีการสั่งซื้อล็อตใหญ่เพิ่มเติมหรือไม่ เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมาย 12 ล้านตันภายในสิ้นปีนี้ตามที่ทำเนียบขาวได้ประกาศไว้ แม้ทางฝั่งจีนจะยังไม่มีการยืนยันตัวเลขเป้าหมายดังกล่าวก็ตาม