สำนักบริหารกำกับดูแลผลผลิตน้ำตาลของฟิลิปปินส์ระบุว่า ผลผลิตน้ำตาลในพื้นที่เพาะปลูกเขตวิซายาส ซึ่งเป็นฐานการผลิตน้ำตาลมากกว่าครึ่งหนึ่งของทั้งประเทศนั้น คาดว่าจะได้รับความเสียหาย 50,000-120,000 ตันจากผลกระทบของพายุไต้ฝุ่นดังกล่าว ขณะเดียวกันรายงานขั้นเบื้องต้นระบุว่า ฐานการผลิตน้ำตาลได้รับความเสียหายราว 25,000 เฮกเตอร์ และความเสียหายอาจจะเพิ่มขึ้น
ส่วนสถาบันวิจัยข้าวระหว่างประเทศเปิดเผยว่า ฟิลิปปินส์อาจจะต้องนำเข้าข้าวเพิ่มขึ้นเนื่องจากภาวะขาดแคลน ซึ่งอาจสูงเกินเป้าหมายเดิมของกระทรวงเกษตรสหรัฐ (USDA) ได้ประเมินไว้ที่ 1.1 ล้านตัน โดยสถาบันดังกล่าวประเมินสถานการณ์ข้าวด้วยการเฝ้าสังเกตการณ์ผ่านดาวเทียม
นายซามาเรนดู มาฮันตี นักเศรษฐศาสตร์จากสถาบันวิจัยข้าวระหว่างประเทศเปิดยเผยว่า ปริมาณการนำเข้าอาจเปลี่ยนแปลงไปซึ่งขึ้นอยู่กับความเสียหาย ขณะที่เขตวิซายาสตะวันออกซึ่งได้รับผลกระทบจากไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนมากที่สุดนั้น ผลิตข้าวคิดเป็น 5% ของทั้งประเทศเท่านั้น ขณะที่ภาวะขาดแคลนดังกล่าวอาจทำให้สต็อกข้าวตึงตัว
สำหรับสถานการณ์ไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนในฟิลิปปินส์นั้น ทางสหประชาชาติ (ยูเอ็น) กำลังเร่งเดินหน้าภารกิจบรรเทาภัย ขณะที่ความเสียหายส่วนใหญ่กระจุกอยู่ในเมืองและรอบๆเมืองทาโคลบาน ซึ่งเป็นเมืองหลวงของจังหวัดเลย์เต ด้านสภากาชาดสากลเผยว่า ความยากลำบากในการเข้าถึงพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายหนักสุดนั้น ทำให้ยังไม่สามารถยืนยันจำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตที่ชัดเจนได้ ส่วนทางการฟิลิปปินส์ระบุว่าผู้เสียชีวิตอาจสูงถึง 10,000 ราย