สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นในวันศุกร์ (23 พ.ค.) หลังผู้ซื้อในสหรัฐฯ เร่งปิดสถานะก่อนวันหยุดยาวสุดสัปดาห์นี้เนื่องในวันเมโมเรียลเดย์ (Memorial Day) ในวันจันทร์ (26 พ.ค.) ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการเจรจาด้านนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐฯ กับอิหร่านรอบล่าสุด
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 33 เซนต์ หรือ 0.54% ปิดที่ 61.53 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 34 เซนต์ หรือ 0.53% ปิดที่ 64.78 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักวิเคราะห์รายหนึ่งระบุว่า การปิดสถานะชอร์ตก่อนวันหยุดยาวเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ช่วยหนุนราคาน้ำมันในวันศุกร์ โดยช่วงวันเมโมเรียลเดย์ถือเป็นจุดเริ่มต้นฤดูท่องเที่ยวหน้าร้อน ซึ่งเป็นช่วงที่มีความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงสูงสุดในสหรัฐฯ
ในอีกด้านหนึ่ง กลุ่มโอเปกพลัส (OPEC+) ซึ่งรวมถึงประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่และพันธมิตรอย่างรัสเซีย เตรียมจัดการประชุมในสัปดาห์หน้า โดยคาดว่าจะมีการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันอีก 411,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่กดดันตลาด
ขณะเดียวกัน บรรยากาศการเจรจานิวเคลียร์ระหว่างผู้แทนจากสหรัฐฯ และอิหร่านที่จัดขึ้นในกรุงโรมก็สร้างความกังวลในหมู่นักลงทุน เนื่องจากยังไม่มีความคืบหน้า ซึ่งหากการเจรจาล้มเหลว เทรดเดอร์บางรายมองว่าอาจกระทบการส่งออกน้ำมันจากตะวันออกกลาง
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากประเด็นการค้าระหว่างสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป (EU) โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ได้เสนอให้เก็บภาษีนำเข้าสินค้าจาก EU ในอัตราสูงถึง 50% ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. โดยให้เหตุผลว่า EU เป็นคู่เจรจาที่ต่อรองยาก
นักวิเคราะห์อีกรายระบุว่า ตลาดน้ำมันในขณะนี้กำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนจากทั้งภาษีนำเข้าและการคาดการณ์เรื่องอุปทานน้ำมันที่อาจเพิ่มขึ้นจากโอเปกพลัสในช่วงหน้าร้อนนี้