สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันศุกร์ (30 พ.ค.) หลังนักลงทุนคาดว่า กลุ่มโอเปกพลัส (OPEC+) จะตัดสินใจเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในเดือนก.ค. มากกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ในการประชุมวันเสาร์นี้ (31 พ.ค.)
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 15 เซนต์ หรือ 0.25% ปิดที่ 60.79 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 25 เซนต์ หรือ 0.39% ปิดที่ 63.90 ดอลลาร์/บาร์เรล
ทั้งสัญญาน้ำมันดิบ WTI และน้ำมันดิบเบรนท์ต่างก็ปรับตัวลงกว่า 1% ในรอบสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันปรับตัวลง หลังสื่อรายงานว่า โอเปกพลัสอาจหารือเรื่องการเพิ่มกำลังการผลิตในเดือนก.ค. มากกว่า 411,000 บาร์เรลต่อวันที่เคยตกลงไว้สำหรับเดือนพ.ค.และมิ.ย.
นักวิเคราะห์รายหนึ่งกล่าวว่า สิ่งที่โอเปกพลัสวางแผนไว้ดูเหมือนไม่ได้ช่วยหนุนตลาดน้ำมัน โดยราคาน้ำมันจะยังคงอยู่ในระดับใกล้เคียงปัจจุบันในช่วงนี้ ก่อนจะค่อย ๆ ลดลงไปอยู่ในช่วงบนของกรอบ 50 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลภายในสิ้นปีนี้
นักวิเคราะห์กล่าวด้วยว่า ข้อความของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ที่โพสต์ใน Truth Social เกี่ยวกับการที่จีนไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงพักรบทางภาษีนั้น ได้ส่งผลกดดันราคาน้ำมันด้วย
ส่วนมาตรการภาษีของทรัมป์ยังคงมีผลบังคับใช้ หลังจากศาลอุทธรณ์ของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ มีคำสั่งให้ฟื้นมาตรการเรียกเก็บภาษีดังกล่าวในวันพฤหัสบดี (29 พ.ค.) โดยกลับคำตัดสินของศาลการค้าที่สั่งระงับใช้ภาษีดังกล่าวไว้ชั่วคราวในวันพุธ (28 พ.ค.)