สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร (10 มิ.ย.) ขณะที่นักลงทุนรอคอยผลการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ รวมทั้งจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ ในวันนี้
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 31 เซนต์ หรือ 0.47% ปิดที่ 64.98 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 17 เซนต์ หรือ 0.25% ปิดที่ 66.87 ดอลลาร์/บาร์เรล
เจ้าหน้าที่จีนและสหรัฐฯ ยังคงเดินหน้าเจรจาเพื่อคลี่คลายข้อพิพาททางการค้า ขณะที่นักวิเคราะห์กล่าวว่า หากทั้งสองประเทศสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าก็จะช่วยกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจทั่วโลกและทำให้อุปสงค์น้ำมันปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อราคาน้ำมัน
โฮเวิร์ด ลุตนิก รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ กล่าวว่าการเจรจาเป็นไปด้วยดี และเขาคาดหวังว่าการเจรจาจะสิ้นสุดลงในคืนวันอังคารตามเวลาสหรัฐฯ แต่ก็อาจจะต่อเนื่องไปจนถึงวันพุธหากจำเป็น
ธนาคารโลกปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ลงสู่ระดับ 2.3% ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ในเดือนม.ค.ที่ระดับ 2.7% เนื่องจากผลกระทบจากมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ อย่างไรก็ดี ธนาคารโลกระบุว่าความเสี่ยงที่เศรษฐกิจโลกจะเผชิญภาวะถดถอยในปีนี้มีน้อยกว่า 10%
แดเนียล ไฮเนส นักวิเคราะห์จากบริษัท ANZ กล่าวว่า แนวโน้มการเพิ่มขึ้นของอุปทานน้ำมันจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ยังคงเป็นปัจจัยกดดันตลาด โดยโอเปกพลัสซึ่งผลิตน้ำมันประมาณครึ่งหนึ่งของโลก มีมติปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 411,000 บาร์เรล/วันในเดือนก.ค.
สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ลดลง 370,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 6 มิ.ย. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 700,000 บาร์เรล ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบอย่างเป็นทางการจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) ในวันนี้