ราคาน้ำมัน WTI พุ่งขึ้นกว่า 1% ทะลุระดับ 67 ดอลลาร์ในวันนี้ โดยได้ปัจจัยบวกจากภาวะน้ำมันตึงตัวในตลาด
ณ เวลา 20.50 น.ตามเวลาไทย ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนส.ค. บวก 1.05 ดอลลาร์ หรือ 1.58% สู่ระดับ 67.62 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) ระบุว่า ตลาดน้ำมันโลกอาจอยู่ในภาวะตึงตัว ท่ามกลางอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นสำหรับการเดินทางและการผลิตไฟฟ้า
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากถ้อยแถลงของนายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย ซึ่งระบุว่า รัสเซียจะลดกำลังการผลิตน้ำมันเพื่อชดเชยต่อการผลิตเกินโควตาในเดือนส.ค.-ก.ย.
ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาการที่สหรัฐเดินหน้าเรียกเก็บภาษีศุลกากรต่อประเทศคู่ค้า
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าววานนี้ (10 ก.ค.) ว่า เขาวางแผนที่จะเรียกเก็บภาษีศุลกากรแบบครอบคลุม (blanket tariffs) ในอัตรา 15% หรือ 20% กับประเทศคู่ค้าส่วนใหญ่
"เราเตรียมแจ้งประเทศที่เหลือทั้งหมดว่าพวกเขาจะต้องจ่ายภาษี 20% หรือ 15% โดยเรากำลังดำเนินการในขณะนี้" ปธน.ทรัมป์กล่าวให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ต่อนางคริสเตน เวลเกอร์ ผู้สื่อข่าวของ NBC News
"ผมคิดว่าภาษีศุลกากรกำลังได้รับการตอบรับที่ดีมาก โดยตลาดหุ้นก็เพิ่งทำสถิติสูงสุดใหม่ในวันนี้ (10 ก.ค.)" ปธน.ทรัมป์กล่าวขณะนี้ สหรัฐเรียกเก็บภาษีพื้นฐานกับประเทศคู่ค้าส่วนใหญ่ในอัตรา 10% แต่ในระหว่างนี้ ปธน.ทรัมป์ได้ส่งจดหมายไปยังหลายประเทศเพื่อแจ้งภาษีศุลกากรในอัตราใหม่ ซึ่งอยู่ในช่วง 20%-50% โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ส.ค.