ราคาน้ำมัน WTI ปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 58 ดอลลาร์ในวันนี้ โดยดีดตัวขึ้นเป็นวันที่ 6 ติดต่อกัน หลังการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ขณะที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะชะงักงันของการขนส่งน้ำมันจากเวเนซุเอลาและรัสเซีย
ณ เวลา 21.51 น.ตามเวลาไทย ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนม.ค. บวก 0.25 ดอลลาร์ หรือ 0.43% สู่ระดับ 58.63 ดอลลาร์/บาร์เรล
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3/2568 เมื่อวานนี้ โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 4.3% ในไตรมาสดังกล่าว สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 3.2% โดยได้แรงหนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่แข็งแกร่ง
สหรัฐยังคงทำการยึดเรือบรรทุกน้ำมันของเวเนซุเอลา ซึ่งทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับภาวะชะงักงันในการขนส่งน้ำมันในตลาด
นอกจากนี้ การที่ยูเครนและรัสเซียทำการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของแต่ละฝ่าย ก็เป็นอีกปัจจัยที่ช่วยพยุงตลาดน้ำมัน
แม้ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นในวันนี้ แต่ราคาสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์และ WTI มีแนวโน้มดิ่งลงราว 16% และ 18% ตามลำดับในปีนี้ ซึ่งถือเป็นการปรับตัวลงรายปีที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2563 โดยการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในขณะนั้นได้ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกลดลงอย่างมาก
ขณะเดียวกัน สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 2.39 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 1.09 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 685,000 บาร์เรล
ทั้งนี้ สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) มีกำหนดเผยแพร่ข้อมูลสต็อกน้ำมันอย่างเป็นทางการในวันจันทร์ที่ 29 ธ.ค. ซึ่งล่าช้ากว่าปกติ อันเนื่องจากวันหยุดในเทศกาลคริสต์มาส