สัญญา
น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส
(WTI) ตลาด
นิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (25 ก.ค.) หลังจาก
สหรัฐเปิดเผยว่ายอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนมิ.ย. อย่างไรก็ตาม สัญญา
น้ำมันดิบขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่า การผลิต
น้ำมันดิบของ
สหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 20 ปี
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.ขยับขึ้น 10 เซนต์ ปิดที่ 105.49 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 46 เซนต์ ปิดที่ 107.65 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ หรือสินค้าที่มีอายุการใช้งานนานกว่า 3 ปี พุ่งขึ้น 4.2% ในเดือนมิ.ย. มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 1.3% เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของอุปสงค์สินค้าหลากหลายประเทศ ตั้งแต่เครื่องบินพาณิชย์ไปจนถึงเครื่องจักร
การเพิ่มขึ้นของยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนในเดือนมิ.ย.นั้น ออกมาสอดคล้องกับข้อมูลภาคการผลิตของสหรัฐในช่วงก่อนหน้านี้ โดยผลสำรวจของมาร์กิตระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นของสหรัฐ เพิ่มขึ้นแตะ 53.2 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน จากระดับ 51.9 ณ สิ้นเดือนมิ.ย.
อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับอุปทานน้ำมันในสหรัฐ หลังจากสำนักงานสารนิเทศด้านพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่แล้วเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 7.56 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.ปี 2533
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลด้านแรงงานที่อ่อนแอของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 20 ก.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 7,000 ราย สู่ระดับ 343,000 ราย มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 340,000 ราย สะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงผันผวน
อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์:
[email protected]