สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.ลดลง 31 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 93.65 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 34 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 102.29 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาณน้ำมันปรับตัวลง เนื่องจากตลาดขาดปัจจัยผลักดันราคา เพราะไม่มีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในวันศุกร์ ขณะที่นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐในการประชุมประจำปีที่แจ็คสัน โฮล โดยเยลเลนกล่าวว่า ตลาดแรงงานสหรัฐกำลังปรับตัวดีขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็ยังคงมีภาวะซบเซาอยู่ อย่างไรก็ดี ถ้อยแถลงของประธานเฟดไม่ได้ส่งสัญญาณใดๆที่ชัดเจนในเรื่องกำหนดเวลาที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรก
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังปรับตัวลงเพราะนักลงทุนขายทำกำไร หลังจากที่ราคาปรับตัวสูงขึ้นเมื่อวันก่อน โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดบวกเมื่อวันพฤหัสบดี เพราะได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงดัชนีภาคการผลิตและยอดขายบ้านมือสอง
ทั้งนี้ ฤดูกาลขับรถท่องเที่ยวในสหรัฐ ซึ่งโดยปกติแล้วจะดำเนินไปจนถึงวันแรงงาน ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 1 ก.ย. กำลังใกล้เข้ามาแล้ว ซึ่งหมายความว่าความต้องการใช้น้ำมันของสหรัฐ ซึ่งเป็นประเทศที่มีการใช้พลังงานมากที่สุดในโลกนั้น กำลังจะอ่อนแรงลง
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) เปิดเผยเมื่อวันพุธว่า สต็อกน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้น 585,000 บาร์เรล แตะที่ 213.3 ล้านบาร์เรล เมื่อเทียบกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล ขณะที่การส่งมอบน้ำมันเบนซินลดลงแตะ 8.78 ล้านบาร์เรล/วันในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. และเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงอุปสงค์น้ำมันที่เริ่มปรับตัวลดลง