ภาวะตลาดน้ำมันน้ำมัน WTI ปิดพุ่ง $1.10 หลังสหรัฐเผยแท่นขุดเจาะลดลงในสัปดาห์นี้

ข่าวเศรษฐกิจ Saturday November 4, 2017 07:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดทำสถิติสูงสุดในรอบกว่า 2 ปีเมื่อคืนนี้ (3 พ.ย.) หลังสหรัฐเปิดเผยจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. นอกจากนี้ตลาดน้ำมันยังได้ปัจจัยบวกจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) อาจตกลงขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันออกไปอีก 9 เดือน ในการประชุมกลุ่มโอเปกเดือนนี้

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.10 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 55.64 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 1.45 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ 62.07 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ได้รับปัจจัยหนุนให้ปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน หลังเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งาน มีจำนวนลดลง 8 แท่น สู่ระดับ 729 แท่นในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 3 พ.ย.

อย่างไรก็ตาม จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสัปดาห์นี้ ยังคงสูงกว่าระดับ 450 แท่นในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

บรรยากาศการซื้อขายในตลาดน้ำมันยังได้ปัจจัยบวกจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันในการประชุมที่กรุงเวียนนาในวันที่ 30 พ.ย.

โดยล่าสุด ซาอุดิอาระเบียและรัสเซียได้ออกมาประสานเสียงสนับสนุนให้ขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันออกไปอีก 9 เดือนจนถึงสิ้นปีหน้า จากเดิมที่มีกำหนดสิ้นสุดในไตรมาสแรกของปีหน้า

นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการที่สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐได้ปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดกำลังปรับตัวเข้าสู่ภาวะสมดุล


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ