ภาวะตลาดน้ำมันน้ำมัน WTI ปิดลบ 35 เซนต์ เหตุเงินดอลล์แข็ง,วิตกสหรัฐเพิ่มผลิตน้ำมัน

ข่าวเศรษฐกิจ Saturday February 3, 2018 06:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (2 ก.พ.) หลังจากเบเกอร์ ฮิวจ์รายงานว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 2 ซึ่งบ่งชี้ถึงการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นในสหรัฐ นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 35 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 65.45 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนเม.ย. ร่วงลง 1.07 ดอลลาร์ หรือ 1.5% ปิดที่ 68.58 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงหลังจากเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งาน มีจำนวนเพิ่มขึ้น 6 แท่น สู่ระดับ 765 แท่นในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นจำนวนมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.ปีที่แล้ว และเป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 2

นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.58% สู่ระดับ 89.182 เมื่อคืนนี้

ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น จะลดความน่าดึงดูดของสัญญาน้ำมัน โดยทำให้สัญญามีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น

สำหรับปัจจัยที่ส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อคืนนี้ มาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาดในปีนี้ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 200,000 ตำแหน่ง มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 180,000 ตำแหน่ง

ส่วนตัวเลขรายได้หรือค่าแรงต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงานซึ่งเป็นข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญเนื่องจากเป็นสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อนั้น เพิ่มขึ้น 9 เซนต์/ชั่วโมง หรือ 0.3% และเพิ่มขึ้น 2.9% เมื่อเทียบรายปี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ