สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดทรงตัวเมื่อคืนนี้ (17 พ.ค.) ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ปิดตลาดดีดตัวขึ้นใกล้แตะระดับ 80 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยภาวะการซื้อขายในตลาดยังคงได้รับปัจจัยหนุนจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า สหรัฐอาจจะคว่ำบาตรอุตสาหกรรมน้ำมันของอิหร่าน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดทรงตัวที่ 71.49 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค. ขยับขึ้น 2 เซนต์ ปิดที่ 79.30 ดอลลาร์/บาร์เรล
ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังคงได้รับปัจจัยหนุนจากความเป็นไปได้ที่รัฐบาลสหรัฐจะประกาศคว่ำบาตรอุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐ หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศนำสหรัฐถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ซึ่งอิหร่านได้ลงนามร่วมกับกลุ่มประเทศ P5+1 ได้แก่ จีน รัสเซีย อังกฤษ ฝรั่งเศส สหรัฐ และเยอรมนี เมื่อปี 2558
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า สหรัฐจะประกาศคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันของอิหร่านจำนวน 200,000-1,000,000 บาร์เรล/วัน
ทางด้านโททาล ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานรายใหญ่ของฝรั่งเศส ประกาศจะยกเลิกโครงการก๊าซธรรมชาติในอิหร่าน หากโครงการดังกล่าวไม่รอดพ้นจากมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านโดยสหรัฐ หลังจากที่สหรัฐได้ถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ โดยก่อนหน้านี้ โททาลได้ลงนามในสัญญาพัฒนาแหล่งก๊าซธรรมชาติในอิหร่านด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นที่ 1 พันล้านดอลลาร์ในปี 2560
นักวิเคราะห์มองว่า ราคาน้ำมันมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 4 ไตรมาส ซึ่งจะเป็นช่วงขาขึ้นของราคาน้ำมันที่ยาวนานที่สุดในรอบกว่า 10 ปี โดยได้แรงหนุนจากการที่ปธน.ทรัมป์ประกาศถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน พร้อมส่งสัญญาณว่าจะใช้มาตรการคว่ำบาตรขั้นสูงสุดต่ออิหร่าน
นักลงทุนจับตาการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 22 มิ.ย. เพื่อทบทวนนโยบายการผลิตน้ำมัน หลังจากที่มีมติขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 1.8 ล้านบาร์เรล/วันจนถึงสิ้นปีนี้เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมัน