ภาวะตลาดน้ำมันน้ำมัน WTI ปิดพุ่ง $1.73 หลังโอเปกลดการผลิต, คลายกังวลการค้าสหรัฐ-จีน

ข่าวเศรษฐกิจ Saturday January 19, 2019 06:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นกว่า 3% ในวันศุกร์ (18 ม.ค.) หลังมีรายงานว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ได้ปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันในเดือนธ.ค. ซึ่งทำให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด นอกจากนี้ ภาวะการซื้อขายยังได้แรงหนุน หลังมีสัญญาณที่ดีว่าความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนกำลังจะได้รับการคลี่คลายในเร็ววันนี้ ขณะเดียวกัน เบเกอร์ ฮิวจ์ เผยจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันรายสัปดาห์ในสหรัฐลดลงมากที่สุดในรอบเกือบ 3 ปี ซึ่งข้อมูลดังกล่าวมีส่วนสนับสนุนให้ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 1.73 ดอลลาร์ หรือ 3.3% ปิดที่ 53.80 ดอลลาร์/บาร์เรล และเพิ่มขึ้น 4.3% ตลอดทั้งสัปดาห์ ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 1.52 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 62.70 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่ทั้งสัปดาห์ เพิ่มขึ้น 3.7%

ตลาดซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ของสหรัฐจะปิดทำการในวันจันทร์หน้า เนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์

โอเปกออกรายงานประจำเดือนม.ค.ระบุว่า การผลิตน้ำมันของโอเปกลดลง 751,000 บาร์เรล/วันในเดือนธ.ค. สู่ระดับ 31.6 ล้านบาร์เรล/วัน

เมื่อเดือนที่แล้ว โอเปกและกลุ่มประเทศนอกโอเปก นำโดยรัสเซีย เห็นพ้องกันที่จะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 1.2 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนนี้ เพื่อป้องกันการทรุดตัวของราคาน้ำมัน

ซาอุดีอาระเบียเป็นผู้นำในการปรับลดการผลิตของโอเปก โดยลดลง 468,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 10.5 ล้านบาร์เรล/วัน และซาอุดีอาระเบียมีเป้าหมายในการปรับลดการผลิตลงสู่ระดับ 10.2 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนนี้

ขณะเดียวกัน การผลิตน้ำมันของลิเบียลดลง 172,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ to 928,000 บาร์เรล/วัน ส่วนการผลิตน้ำมันของอิหร่านลดลง 159,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับต่ำกว่า 2.8 ล้านบาร์เรล/วัน และขณะนี้อิหร่านกลายเป็นประเทศที่ผลิตน้ำมันมากเป็นอันดับ 5 ของโอเปก จากเดิมอยู่ที่อันดับ 3 โดยได้รับผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐ

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้ปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังหารือกันเกี่ยวกับการผ่อนคลายมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน ซึ่งอาจจะเป็นการยกเลิกภาษีนำเข้าสินค้าบางประเภทหรืออาจจะยกเลิกทั้งหมด โดยมีเป้าหมายที่จะลดความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสองประเทศ รวมทั้งเป็นการโน้มน้าวให้จีนยอมทำข้อตกลงการค้าทวิภาคี และเพื่อสร้างเสถียรภาพในตลาดการเงิน หลังจากที่ตลาดประสบกับความผันผวนอย่างหนักในช่วงก่อนหน้านี้ อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

ด้านสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า จีนได้เสนอแผนเพื่อแก้ไขความขัดแย้งทางการค้ากับสหรัฐ โดยจีนเสนอที่จะเพิ่มการนำเข้าสินค้าสหรัฐเป็นเวลา 6 ปี รวมมูลค่ามากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์

ทั้งนี้ จีนเสนอที่จะเพิ่มการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐเพื่อลดการขาดดุลการค้าของสหรัฐที่มีต่อจีนให้เหลือศูนย์ภายในปี 2567 จากที่ขาดดุลการค้าต่อจีนจำนวน 3.23 แสนล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว

รายงานดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่ทางการจีนยืนยันว่า นายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน จะเดินทางเยือนสหรัฐในช่วงปลายเดือนนี้ เพื่อเปิดการเจรจากับสหรัฐรอบใหม่

นอกจากนี้ ภาวะตลาดน้ำมันยังได้ปัจจัยหนุนจากรายงานของเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐ ที่เปิดเผยว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งาน มีจำนวนลดลง 21 แท่น มาอยู่ที่ 852 แท่นในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นการลดลงสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน และเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2559 หรือในรอบเกือบ 3 ปี โดยจำนวนแท่นขุดเจาะที่ลดลงบ่งชี้ถึงการชะลอตัวของกิจกรรมการผลิตน้ำมันในอนาคต


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ