สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ (12 มี.ค.) หลังจากซาอุดีอาระเบียส่งสัญญาณว่าจะเพิ่มการปรับลดกำลังการผลิตในเดือนหน้า นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยหนุนจากข่าวเวเนซุเอลาลดการส่งออกน้ำมัน เนื่องจากประสบปัญหาไฟฟ้าดับทั่วประเทศ
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 8 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 56.87 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 9 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 66.67 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปิดในแดนบวก หลังจากเจ้าหน้าที่ซาอุดีอาระเบียกล่าวว่า ซาอุดีอาระเบียมีแผนที่จะปรับลดกำลังการผลิตให้ต่ำกว่าระดับที่กำหนดไว้ในเดือนเม.ย. โดยจะปรับลดลงต่ำกว่าระดับ 10 ล้านบาร์เรล/วัน
ทั้งนี้ เมื่อเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว โอเปกและกลุ่มประเทศนอกโอเปก นำโดยรัสเซีย เห็นพ้องกันที่จะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 1.2 ล้านบาร์เรล/วันเพื่อป้องกันการทรุดตัวของราคาน้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากรายงานที่ว่า บริษัท PDVSA ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันของรัฐบาลเวเนซุเอลา ยังคงไม่สามารถส่งออกน้ำมันได้ นับตั้งแต่ที่เวเนซุเอลาประสบปัญหาไฟฟ้าดับทั่วประเทศตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากช่วงบวกของตลาดถูกสกัดด้วยรายงานคาดการณ์ของสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ซึ่งระบุว่า สหรัฐจะยังคงเพิ่มการผลิตน้ำมันจนถึงปี 2567 โดยคาดว่าการผลิตโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 12.3 ล้านบาร์เรล/วัน
นอกจากนี้ IEA ยังได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันในตลาดโลกปี 2562 ลง 40,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 1.45 ล้านบาร์เรล/วัน
คณะกรรมการตรวจสอบการปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต (JMMC) ของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปก รวมถึงรัสเซีย มีกำหนดจัดการประชุมในวันที่ 18 มี.ค.นี้ที่อาร์เซอร์ไบจาน จากนั้นกลุ่มโอเปกจะจัดการประชุมเพื่อพิจารณานโยบายการผลิตน้ำมันในวันที่ 17-18 เม.ย. และ 25-26 มิ.ย.
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) มีกำหนดเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย