สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (23 ก.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะลดลงติดต่อกัน 6 สัปดาห์ นอกจากนี้ นักลงทุนยังขานรับข่าวเจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนจะจัดการเจรจาการค้าในสัปดาห์หน้า
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 55 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 56.77 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 57 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 63.83 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) มีกำหนดเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ในวันนี้ เวลา 21.00 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลล์สำรวจของเอสแอนด์พี โกลบอล แพลทส์ คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 4.4 ล้านบาร์เรล ในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 19 ก.ค. ซึ่งจะเป็นการลดลงติดต่อกัน 6 สัปดาห์
สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับปัจจัยหนุนหลังจากหนังสือพิมพ์เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า นายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ และนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ จะเดินทางไปยังกรุงปักกิ่งในสัปดาห์หน้า เพื่อเจรจากับนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน
การเจรจาครั้งนี้จะเป็นการพบปะกันแบบตัวต่อตัวครั้งแรก นับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้ตกลงกันในระหว่างการประชุม G20 ว่า ทั้งสองฝ่ายจะสงบศึกการค้าชั่วคราว และจะจัดการเจรจาร่วมกันอีกครั้ง
ทางด้านนายแลร์รี่ คุดโลว์ หัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า ถือเป็นสัญญาณที่ดีที่เจ้าหน้าที่สหรัฐจะเดินทางไปยังจีนในสัปดาห์หน้าเพื่อเจรจาการค้ากับเจ้าหน้าที่จีน พร้อมกับแสดงความหวังว่า จีนจะเริ่มต้นสั่งซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐ ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงโดยรวม และเพื่อแสดงถึงไมตรีจิตของจีน
นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกลาง หลังจากเกิดเหตุการณ์อิหร่านยึดเรือบรรทุกน้ำมันของอังกฤษในช่องแคบฮอร์มุซ โดยมีการคาดการณ์ว่า การที่อิหร่านยึดเรือบรรทุกน้ำมันของอังกฤษในครั้งนี้ เป็นการตอบโต้ต่อการที่อังกฤษยึดเรือบรรทุกน้ำมันของอิหร่านเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนหน้านี้