ภาวะตลาดน้ำมันน้ำมัน WTI ปิดพุ่ง $2.21 หลัง"ทรัมป์"ขู่โจมตีเรืออิหร่าน,สหรัฐผลิตน้ำมันลดลง

ข่าวต่างประเทศ Thursday April 23, 2020 07:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (22 เม.ย.) หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐขู่ว่าจะยิงเรือปืนของอิหร่านทุกลำ หากก่อให้เกิดอันตรายต่อเรือสหรัฐ ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวบ่งชี้ว่าสถานการณ์ระหว่างสหรัฐและอิหร่านอาจกลับมาตึงเครียดอีกครั้ง นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังดีดตัวขึ้นขานรับรายงานการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐที่ปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. พุ่งขึ้น 2.21 ดอลลาร์ หรือ 19.1% ปิดที่ 13.78 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 1.04 ดอลลาร์ หรือ 5.4% ปิดที่ 20.37 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้น ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและอิหร่าน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความเมื่อวานนี้ว่า เขาได้สั่งให้กองทัพเรือสหรัฐทำการยิงและทำลายเรือปืนของอิหร่านทุกลำ หากก่อให้เกิดอันตรายต่อเรือสหรัฐ

คำสั่งของปธน.ทรัมป์มีขึ้นเพียงไม่กี่วัน หลังจากที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐรายงานว่า เรือจากกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน (IRGC) ได้แสดงท่าทีที่ยั่วยุและอันตราย ขณะขับเข้าใกล้เรือยามฝั่งของสหรัฐในอ่าวเปอร์เซีย

รายงานของกองทัพเรือสหรัฐระบุว่า "ขณะที่เรือสหรัฐจำนวน 6 ลำได้ทำการฝึกซ้อมปฏิบัติการในน่านน้ำสากลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เรืออิหร่านจำนวน 11 ลำได้ขับเข้าใกล้เรือสหรัฐด้วยความเร็วสูง"

นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้แรงหนุนจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ซึ่งระบุว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลง 100,000 บาร์เรล สู่ระดับ 12.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 17 เม.ย.

อย่างไรก็ดี EIA ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 15 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 17 เม.ย. โดยเป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 13 สัปดาห์ และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 12.9 ล้านบาร์เรล

ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 5.7 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 7.9 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 3.7 ล้านบาร์เรล


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ