ราคาน้ำมัน WTI ปรับตัวแคบ นักลงทุนจับตาประชุมโอเปกพลัส

ข่าวต่างประเทศ Monday November 30, 2020 21:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปรับตัวแคบในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ในสัปดาห์นี้

อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันยังคงได้รับแรงหนุนจากความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19

ณ เวลา 21.32 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนม.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX บวก 8 เซนต์ หรือ 0.18% สู่ระดับ 45.61 ดอลลาร์/บาร์เรล

ทั้งนี้ โอเปกพลัสจะหารือกันเกี่ยวกับนโยบายการผลิตน้ำมันในสัปดาห์นี้ โดยโอเปกจะจัดการประชุมในวันนี้ ก่อนที่โอเปกพลัสจะประชุมในวันพรุ่งนี้

อย่างไรก็ดี โอเปกพลัสได้จัดการประชุมอย่างไม่เป็นทางการเมื่อวานนี้ ซึ่งที่ประชุมไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับนโยบายการผลิตน้ำมันในปี 2564

นักวิเคราะห์จากดอยช์แบงก์ระบุว่า ราคาน้ำมันจะทรุดตัวลงถึง 10% หากที่ประชุมโอเปกพลัสไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในการขยายเวลาการปรับลดกำลังการผลิต 2 ล้านบาร์เรล/วันออกไปอีก 3-4 เดือน

ทั้งนี้ ที่ประชุมโอเปกพลัสจะพิจารณานโยบายการผลิตน้ำมันในปี 2564 หลังจากที่ก่อนหน้านี้โอเปกพลัสตัดสินใจปรับลดกำลังการผลิต 7.7 ล้านบาร์เรล/วันจนถึงสิ้นปี 2563 ก่อนที่จะลดกำลังการผลิตเพียง 5.8 ล้านบาร์เรล/วันตั้งแต่เดือนม.ค.2564 ซึ่งจะทำให้มีปริมาณน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรล/วันจากโอเปกพลัสไหลเข้าสู่ตลาดน้ำมันโลก

แหล่งข่าวระบุว่า โอเปกพลัสมีแนวโน้มที่จะเลื่อนแผนการเพิ่มกำลังการผลิต 2 ล้านบาร์เรล/วันออกไป 3-6 เดือน เนื่องจากมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดจากการใช้มาตรการล็อกดาวน์ในหลายประเทศเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งจะฉุดอุปสงค์น้ำมันในตลาด

อย่างไรก็ดี รัสเซียมีท่าทีสนับสนุนให้โอเปกพลัสเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันอย่างค่อยเป็นค่อยไปในเดือนม.ค.2564 ขณะที่คาซัคสถานได้แสดงจุดยืนคัดค้านการขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิต และให้มีการเพิ่มการผลิตน้ำมันเช่นกัน

ทางด้านโมเดอร์นา อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของสหรัฐ แถลงว่า ทางบริษัทเตรียมยื่นเรื่องต่อสำนักงานอาหารและยาสหรัฐ (FDA) ในวันนี้ เพื่อขออนุมัติการใช้วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของทางบริษัทเป็นกรณีฉุกเฉิน หลังจากมีการเปิดเผยข้อมูลใหม่ยืนยันว่าวัคซีนดังกล่าวมีความปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ 94.1% ในการป้องกันไวรัสโควิด-19

ทั้งนี้ โมเดอร์นานับเป็นบริษัทยาแห่งที่ 2 ที่ยื่นขออนุมัติการใช้วัคซีนโควิด-19 เป็นกรณีฉุกเฉิน หลังจากที่ไฟเซอร์ได้ยื่นเรื่องก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 20 พ.ย.

การยื่นขออนุมัติดังกล่าว จะทำให้ชาวอเมริกันได้รับวัคซีนของโมเดอร์นาในเวลาอีกเพียงไม่กี่สัปดาห์

โมเดอร์นาระบุว่า ผลการวิเคราะห์ครั้งใหม่พบว่า จากการทดลองในอาสาสมัครจำนวน 30,000 ราย มีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวนเพียง 196 ราย โดย 185 รายมาจากกลุ่มที่ได้รับวัคซีนหลอก ส่วนอีก 11 รายมาจากกลุ่มที่ได้รับวัคซีนจริง ส่งผลให้การทดลองดังกล่าวบ่งชี้ประสิทธิภาพของวัคซีนสูงถึง 94.1% ซึ่งสูงกว่าผลวิเคราะห์เบื้องต้นที่ทางบริษัทเปิดเผยเมื่อวันที่ 16 พ.ย.ที่ระดับ 94%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ