ตำรวจเกาหลีใต้ประกาศเริ่มการสืบสวนอย่างเป็นทางการในวันนี้ (30 เม.ย.) จากกรณีที่บริษัท เอสเค เทเลคอม (SK Telecom) ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ที่สุดของประเทศ ถูกแฮกข้อมูล ส่งผลให้ลูกค้าจำนวนมากต้องเปลี่ยนซิมการ์ดหรือย้ายค่ายมือถือ
หน่วยสืบสวนทางไซเบอร์ของสำนักงานตำรวจนครบาลกรุงโซล ระบุว่า ได้มีการจัดตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจ 22 นาย เพื่อตรวจสอบการโจมตีทางไซเบอร์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 เม.ย. ซึ่งเอสเค เทเลคอม ตรวจพบสัญญาณที่บ่งชี้ว่าข้อมูล USIM ของลูกค้าเกิดการรั่วไหลครั้งใหญ่
เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่าได้รวบรวมหลักฐานดิจิทัลอย่างรวดเร็ว ตลอดจนประสานงานกับพันธมิตรทั้งในประเทศและต่างประเทศเพื่อตรวจสอบรายละเอียดของการแฮกและผู้ที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้
รยู ยองซัง ซีอีโอของเอสเค เทเลคอม กล่าวในวันนี้ว่า บริษัทกำลังเตรียมรับมือกับสถานการณ์เลวร้ายที่สุด โดยการโจมตีทางไซเบอร์อาจทำให้ข้อมูล USIM ของลูกค้าทั้งหมด 25 ล้านรายรั่วไหลออกไป พร้อมกับยอมรับว่าเหตุการณ์นี้อาจถือได้ว่าเป็นการแฮกครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์โทรคมนาคมของประเทศ
เอสเค เทเลคอม ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เนื่องจากผ่านไปแล้ว 2 วันจึงจะรายงานว่าตรวจพบการโจมตีทางไซเบอร์ ซึ่งขัดต่อกฎหมายที่กำหนดให้รายงานภายใน 24 ชั่วโมง หลังจากเรื่องราวถูกเปิดเผย บริษัทได้ให้คำมั่นว่าจะดำเนินมาตรการต่าง ๆ ทันที รวมถึงการเปลี่ยนซิมฟรีให้ลูกค้าทุกคน พร้อมสมัครบริการป้องกันซิม USIM Protection Service ซึ่งสามารถป้องกันการทำธุรกรรมผิดกฎหมายในระดับเดียวกับการเปลี่ยนซิม
ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้เริ่มดำเนินการสืบสวนว่า เอสเค เทเลคอม มีโปรโตคอลรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสมในการปกป้องข้อมูล USIM ที่จัดเก็บอยู่ในเซิร์ฟเวอร์หลักหรือไม่