เมตา แพลตฟอร์มส์ (Meta Platforms) เจ้าของเฟซบุ๊ก (Facebook) และอินสตาแกรม (Instagram) สร้างความฮือฮาด้วยการประกาศบรรลุข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์กับคอนสเตลเลชัน เอเนอร์จี (Constellation Energy) บริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ เพื่อทุ่มเม็ดเงินสนับสนุนให้เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์แห่งหนึ่งในรัฐอิลลินอยส์ยังคงเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าต่อไปได้อีกถึง 20 ปี นับเป็นครั้งแรกที่บริษัทเทคฯ ยักษ์ใหญ่อย่างเมตากระโดดเข้ามาลงทุนโดยตรงในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์
ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ที่กลุ่มบริษัทเทคฯ ยักษ์ใหญ่กำลังเผชิญกับความท้าทายในการจัดหาพลังงานไฟฟ้าให้เพียงพอต่อความต้องการที่พุ่งสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดดในสหรัฐฯ เป็นครั้งแรกในรอบ 2 ทศวรรษ โดยมีปัจจัยหลักมาจากความต้องการพลังงานมหาศาลของระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) และศูนย์ข้อมูลที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว
ปัจจุบัน โรงไฟฟ้านิวเคลียร์คลินตัน (Clinton Clean Energy Center) ของคอนสเตลเลชัน ได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐอิลลินอยส์ผ่านโครงการให้เครดิตการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ ซึ่งใช้เงินทุนส่วนหนึ่งจากผู้ใช้ไฟฟ้า เพื่อส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าสะอาด อย่างไรก็ตาม โครงการนี้จะสิ้นสุดลงในปี 2570 จุดนี้เองที่ข้อตกลงซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ของเมตาจะเข้ามามีบทบาทสำคัญ โดยจะอัดฉีดเงินทุน (เป็นจำนวนที่ไม่เปิดเผย) เพื่อช่วยในการต่ออายุใบอนุญาตและสนับสนุนการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าต่อไป
ดีลครั้งนี้อาจกลายเป็นโมเดลต้นแบบที่กระตุ้นให้บริษัทเทคฯ ยักษ์ใหญ่เจ้าอื่น ๆ หันมาให้ความสำคัญกับการสนับสนุนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่มีอยู่เดิม ควบคู่ไปกับการวางแผนใช้พลังงานจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งใหม่และแหล่งพลังงานทางเลือกอื่น ๆ เพื่อป้อนให้กับศูนย์ข้อมูลของตน
เออร์วี ปาเรกห์ หัวหน้าฝ่ายพลังงานระดับโลกของเมตา กล่าวว่า "สิ่งที่เราได้ยินบ่อยครั้งจากผู้ให้บริการสาธารณูปโภคคือ พวกเขาต้องการความมั่นใจว่าโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการอยู่ทุกวันนี้ จะยังคงเดินหน้าต่อไปได้"
ด้านโจ โดมิงเกซ ซีอีโอของคอนสเตลเลชัน เปิดเผยว่า "เรากำลังเจรจากับลูกค้ารายอื่น ๆ ทั่วประเทศ ไม่ใช่แค่ในอิลลินอยส์ เพื่อให้พวกเขาเข้ามาสนับสนุนเหมือนที่เมตาทำ ซึ่งก็คือการสร้างหลักประกันให้เราสามารถลงทุนต่ออายุใบอนุญาตและเดินเครื่องสินทรัพย์เหล่านี้ต่อไปได้"
ขณะที่บ็อบบี เวนเดลล์ เจ้าหน้าที่จากสหภาพแรงงานช่างไฟฟ้าสากล แสดงความเห็นว่า ข้อตกลงนี้จะช่วยสร้าง "ความมั่นคงในอาชีพ" ให้กับพนักงานที่โรงไฟฟ้าแห่งนี้
นอกจากนี้ ข้อตกลงดังกล่าวยังเปิดทางให้คอนสเตลเลชันสามารถขยายกำลังการผลิตของโรงไฟฟ้าคลินตัน ซึ่งปัจจุบันมีกำลังการผลิต 1,121 เมกะวัตต์ (MW) เพิ่มขึ้นอีก 30 MW โดยโรงไฟฟ้าแห่งนี้สามารถผลิตไฟฟ้าป้อนบ้านเรือนในสหรัฐฯ ได้ราว 800,000 หลัง
ทั้งนี้ โรงไฟฟ้าคลินตันเริ่มเปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2530 และเมื่อปีที่แล้ว คอนสเตลเลชันได้ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการกำกับกิจการนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ เพื่อขอต่ออายุใบอนุญาตไปจนถึงปี 2590