บริษัท Starlink ของนายอีลอน มัสก์ ประสบความสำเร็จในการคว้าใบอนุญาตจากกระทรวงโทรคมนาคมของอินเดียในสัปดาห์ที่แล้วสำหรับการให้บริการอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมเชิงพาณิชย์ทั่วประเทศอย่างเป็นทางการ
หลายฝ่ายจับตาความคืบหน้าของ Starlink ในอินเดียอย่างใกล้ชิด รวมถึงผู้สังเกตการณ์ในประเทศไทย เนื่องจากกฎระเบียบที่เข้มงวดของอินเดียและจำนวนประชากรที่มหาศาล ถือเป็นบททดสอบที่สำคัญสำหรับบริษัทเทคโนโลยีระดับโลก ซึ่งหาก Starlink สามารถฝ่าฟันอุปสรรคเหล่านี้ และสามารถให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่เชื่อถือได้ไปยังทุกพื้นที่ของอินเดียได้สำเร็จ ก็จะเป็นแรงผลักดันให้มีการขยายบริการอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมไปยังประเทศไทยเช่นกัน
การอนุมัติของรัฐบาลอินเดียทำให้ Starlink กลายเป็นบริษัทที่ 3 ที่ได้รับอนุญาตให้บริการสื่อสารผ่านดาวเทียมในประเทศ ต่อจาก OneWeb ของ Eutelsat และ Reliance Jio
การตัดสินใจให้การอนุมัติของรัฐบาลอินเดียในครั้งนี้เกิดจากการเจรจายาวนานหลายปี โดยเฉพาะจากการที่ Starlink ยินยอมปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความมั่นคงของอินเดีย ผ่านการหารือโดยตรงระหว่างนายมัสก์และนายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย
ทั้งนี้ ภูมิประเทศที่กว้างใหญ่และหลากหลายของอินเดีย ทำให้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่รวดเร็วและมีความเสถียรไปยังพื้นที่ชนบทและพื้นที่ห่างไกลเป็นเรื่องที่ยากลำบาก ขณะที่เสาสัญญาณและเครือข่ายไฟเบอร์แบบดั้งเดิมมีข้อจำกัดในพื้นที่เหล่านี้ แต่เครือข่ายดาวเทียมวงโคจรต่ำ (LEO) ของ Starlink เสนอทางเลือกใหม่ที่มีศักยภาพในการให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและเชื่อถือได้ในพื้นที่ซึ่งไม่เคยมีการเชื่อมต่อมาก่อน
การได้รับใบอนุญาตดังกล่าวไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับ Starlink เนื่องจากทางการอินเดียมีท่าทีระมัดระวังต่อผู้ให้บริการดาวเทียมต่างชาติ ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงของข้อมูลและความเป็นอิสระทางดิจิทัล โดยรัฐบาลได้กำหนดเงื่อนไขหลายประการ ได้แก่ ข้อมูลของผู้ใช้บริการทั้งหมดจะต้องเก็บไว้ภายในประเทศ, การให้บริการจะต้องสามารถควบคุมได้ในกรณีฉุกเฉิน และบริษัทจะต้องสามารถตรวจสอบอุปกรณ์ของผู้ใช้บริการแบบเรียลไทม์
การที่ Starlink ยินยอมสร้างสถานีภาคพื้นดินในอินเดีย และจัดเก็บข้อมูลผู้ใช้บริการชาวอินเดียทั้งหมดไว้ภายในประเทศ เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้บริษัทผ่านการอนุมัติจากรัฐบาลอินเดีย
นอกจากนี้ การพบปะกันระหว่างนายมัสก์และนายโมดีเมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมา ได้ช่วยเร่งกระบวนการพิจารณาใบอนุญาตให้แก่ Starlink ขณะที่นายโมดีเน้นย้ำถึงความจำเป็นของอินเทอร์เน็ตที่เข้าถึงได้และมีราคาย่อมเยาสำหรับทุกคน โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกล ส่วนนายมัสก์ได้อธิบายถึงศักยภาพของ Starlink และตอบข้อกังวลของนายโมดีเกี่ยวกับความปลอดภัยของข้อมูลและระบบรักษาความปลอดภัย
ทั้งนี้ Starlink เตรียมเริ่มให้บริการในอินเดียภายใน 2 เดือนข้างหน้า โดยขณะนี้ บริษัทได้กำหนดโครงสร้างราคาสำหรับตลาดอินเดียแล้ว โดยกำหนดราคาของอุปกรณ์จานรับสัญญาณดาวเทียมไว้ที่ 33,000 รูปี หรือราว 12,570 บาท ส่วนแพคเกจจ่ายรายเดือนสำหรับการให้บริการข้อมูลแบบไม่จำกัดอยู่ที่ 3,000 รูปี หรือราว 1,140 บาท
โครงสร้างราคาดังกล่าวสอดคล้องกับราคาในระดับภูมิภาคของ Starlink โดยราคาของอุปกรณ์ในอินเดียจะเท่ากับในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น บังกลาเทศและภูฏาน ซึ่งมีราคา 33,000 รูปีเช่นกัน
นอกจากนี้ Starlink ยังมอบโปรโมรชั่นในช่วงการเปิดตัว โดยผู้ใช้บริการสามารถทดลองใช้งานฟรี 1 เดือนเมื่อซื้ออุปกรณ์ครั้งแรก ก่อนตัดสินใจสมัครใช้บริการรายเดือน
คาดว่าการให้บริการอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมของ Starlink จะส่งผลดีอย่างมากต่อการเชื่อมต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ห่างไกลและพื้นที่ด้อยโอกาสในอินเดีย ซึ่งโครงสร้างพื้นฐานของบรอดแบนด์แบบดั้งเดิมมีข้อจำกัดในการขยายสัญญาณ ในขณะที่กลุ่มดาวเทียมโคจรระดับต่ำของ Starlink จะช่วยส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงไปยังพื้นที่ห่างไกลซึ่งเดิมไม่สามารถรับบริการได้
ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมระบุว่า การเข้ามาของ Starlink ในตลาดอินเดียจะกระตุ้นการแข่งขันของภาคโทรคมนาคมในประเทศ และสามารถเชื่อมต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ตให้กับพื้นที่ชนบท สถาบันการศึกษา และธุรกิจในพื้นที่ห่างไกล