ประธานเจ้าหน้าที่สายงานบริหาร (CAO) ของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ได้ส่งบันทึกข้อความถึงเจ้าหน้าที่สภาผู้แทนฯ เมื่อวันจันทร์ (23 มิ.ย.) ห้ามเจ้าหน้าที่ทุกคนใช้แอปพลิเคชันวอตส์แอป (WhatsApp) ในอุปกรณ์ทุกเครื่องของหน่วยงาน
บันทึกดังกล่าวระบุว่า สำนักงานความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์พิจารณาเห็นว่า วอตส์แอปมีความเสี่ยงสูง เนื่องจากขาดความโปร่งใสเกี่ยวกับวิธีการปกป้องข้อมูลผู้ใช้ ไม่มีการเข้ารหัสข้อมูลที่จัดเก็บไว้ ตลอดจนความเสี่ยงด้านความมั่นคงปลอดภัยอื่น ๆ พร้อมกับแนะนำให้ใช้แอปส่งข้อความอื่นแทน เช่น ไมโครซอฟท์ ทีมส์ (Microsoft Teams), อเมซอน วิกเกอร์ (Amazon Wickr), ซิกนัล (Signal) รวมถึงไอเมสเสจ (iMessage) และเฟซไทม์ (FaceTime) ของแอปเปิ้ล (Apple)
เมตา แพลตฟอร์มส์ (Meta Platforms) บริษัทเจ้าของวอตส์แอป แสดงความไม่เห็นด้วยอย่างรุนแรงกับการสั่งห้ามดังกล่าว โดยโฆษกของบริษัทกล่าวว่า วอตส์แอปมีความปลอดภัยสูงกว่าแอปอื่น ๆ ที่ได้รับการอนุมัติเสียอีก
เมื่อเดือนม.ค.ปีนี้ เจ้าหน้าที่ของวอตส์แอปเปิดเผยว่า พารากอน โซลูชันส์ (Paragon Solutions) ซึ่งเป็นบริษัทสปายแวร์ของอิสราเอล ได้มุ่งเป้าโจมตีผู้ใช้หลายราย รวมถึงนักข่าวและสมาชิกภาคประชาสังคม
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เคยสั่งแบนแอปอื่น ๆ มาแล้ว เช่น ติ๊กต๊อก (TikTok) ในปี 2565 เนื่องมาจากปัญหาความมั่นคงปลอดภัยเช่นกัน