สื่อต่างประเทศหลายสำนักรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า โอเพนเอไอ (OpenAI) ได้ปิดการขายหุ้นในตลาดรองมูลค่ารวม 6.6 พันล้านดอลลาร์เรียบร้อยแล้ว โดยเปิดโอกาสให้พนักงานปัจจุบันและอดีตพนักงานขายหุ้นของตนเองได้ ซึ่งการประเมินมูลค่าบริษัทในครั้งนี้สูงเป็นประวัติการณ์ถึงระดับ 5 แสนล้านดอลลาร์
แม้เดิมทีโอเพนเอไอจะอนุมัติวงเงินขายหุ้นไว้สูงถึง 1.03 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากเป้าหมายแรกที่ 6 พันล้านดอลลาร์ แต่ท้ายที่สุดแล้วมีการซื้อขายเกิดขึ้นจริงเพียงประมาณสองในสามของวงเงินดังกล่าว
แหล่งข่าวระบุว่า คนในโอเพนเอไอมองว่าการที่พนักงานขายหุ้นน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ กลับเป็นสัญญาณที่ดีที่สะท้อนความเชื่อมั่นต่ออนาคตของบริษัทในระยะยาว และยังแสดงให้เห็นว่านักลงทุนยังคงให้ความสนใจอย่างมาก แม้มูลค่าบริษัทจะพุ่งมาแตะที่ 5 แสนล้านดอลลาร์ จากเดิม 3 แสนล้านดอลลาร์เมื่อต้นปีก็ตาม
โอเพนเอไอได้ยื่นข้อเสนอขายหุ้นนี้ให้แก่พนักงานปัจจุบันและอดีตที่มีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์เมื่อช่วงต้นเดือนก.ย. โดยเปิดให้ผู้ที่ถือหุ้นมานานกว่าสองปีเข้าร่วมได้
ดีลครั้งนี้นับเป็นการเปิดให้พนักงานขายหุ้นครั้งใหญ่เป็นครั้งที่สองในรอบไม่ถึงหนึ่งปีของโอเพนเอไอ ต่อจากดีลที่ทำร่วมกับซอฟต์แบงก์ (SoftBank) มูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์เมื่อเดือนพ.ย. ปีก่อน
ธุรกรรมล่าสุดนี้ตอกย้ำสถานะของโอเพนเอไอในฐานะบริษัทเอกชนที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก แซงหน้ามูลค่าของสเปซเอ็กซ์ (SpaceX) ที่ 4.56 แสนล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ โอเพนเอไอเป็นหนึ่งในสตาร์ตอัประดับแนวหน้า เช่นเดียวกับสเปซเอ็กซ์, สไตรป์ (Stripe) และเดต้าบริกส์ (Databricks) ที่นิยมเปิดให้พนักงานขายหุ้นในตลาดรอง โดยที่บริษัทยังไม่ต้องเข้าตลาดหลักทรัพย์ หลายฝ่ายมองว่ากลยุทธ์นี้ช่วยให้บริษัทสามารถรักษาบุคลากรมากความสามารถและตอบแทนพนักงานที่อยู่กับองค์กรมานานได้ โดยไม่จำเป็นต้องรีบนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ (IPO)