ศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ มีคำตัดสินเมื่อวันอังคาร (18 พ.ย.) ว่า เมตา แพลตฟอร์ม (Meta Platforms) บริษัทแม่ของเฟซบุ๊ก (Facebook) ไม่เข้าข่ายผูกขาดตลาดสื่อสังคมออนไลน์ ส่งผลให้ความพยายามของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่จะย้อนรื้อดีลการเข้าซื้อกิจการอินสตาแกรม (Instagram) และวอตส์แอปป์ (WhatsApp) ต้องยุติลง
โฆษกเมตาระบุว่า ผลิตภัณฑ์ของบริษัทสร้างประโยชน์ให้กับผู้คนและภาคธุรกิจ และเป็นตัวอย่างของนวัตกรรมและการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ พร้อมย้ำว่าเมตายังคงมุ่งมั่นทำงานร่วมกับภาครัฐและเดินหน้าลงทุนในประเทศ
ด้านโจ ไซมอนสัน โฆษกคณะกรรมการการค้าของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ (FTC) แสดงความผิดหวังต่อคำตัดสินครั้งนี้ และเสริมว่า FTC กำลังพิจารณาทางเลือกที่สามารถดำเนินการได้ต่อไป
รายงานระบุว่า คำพิพากษาครั้งนี้ถือเป็นชัยชนะครั้งสำคัญของบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี ท่ามกลางกระแสกวาดล้างการผูกขาดที่เริ่มตั้งแต่รัฐบาลสมัยแรกของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และนับเป็นความพ่ายแพ้ของ FTC ซึ่งกำลังเดินหน้าในคดีผูกขาดอื่น ๆ รวมถึงการฟ้องอะเมซอน (Amazon)
FTC พยายามหาทางให้เมตาแยกธุรกิจ หรือขายอินสตาแกรมและวอตส์แอปป์ เพื่อให้เกิดการแข่งขัน โดยให้เหตุผลว่าบริษัททุ่มเงินหลายพันล้านดอลลาร์ซื้อแพลตฟอร์มเหล่านี้เพื่อกำจัดคู่แข่งหน้าใหม่
ทั้งนี้ เมตาเข้าซื้ออินสตาแกรมในปี 2555 และซื้อวอตส์แอปป์ในปี 2557 ซึ่งขณะนั้น FTC ไม่ได้คัดค้านดีลดังกล่าว แต่กลับยื่นฟ้องในปี 2563 โดยกล่าวหาว่า เมตาครอบครองอำนาจผูกขาดบนแพลตฟอร์มสหรัฐฯ ที่ใช้สำหรับการแชร์คอนเทนต์กับเพื่อนและครอบครัว ซึ่งคู่แข่งหลักของเมตาในตลาดนี้ ได้แก่ สแนปแชต (Snapchat) และมีวี (MeWe) แอปโซเชียลมีเดียขนาดเล็กที่เน้นความเป็นส่วนตัว ขณะที่แพลตฟอร์มที่เผยแพร่คอนเทนต์สู่สาธารณะให้ใครก็ตามที่สนใจ เช่น เอ็กซ์ (X), ติ๊กต๊อก (TikTok), ยูทูบ (YouTube) และเรดดิต (Reddit) ไม่ถือว่าอยู่ในตลาดเดียวกัน