ในยุคที่ละครขนาดสั้น (Micro-short drama) หรือที่คนไทยเรียกติดปากว่า "ซีรีส์แนวตั้ง" กำลังกลายเป็นคอนเทนต์ยอดฮิตที่ครองใจผู้ชมผ่านหน้าจอมือถือ เคยสงสัยไหมว่า เหตุใดผู้ผลิตจึงปล่อยตอนใหม่ ๆ ออกมารวดเร็วทันใจ และผู้สร้างภาพยนตร์ทำกันอย่างไร จึงสามารถถ่ายทำฉากยิ่งใหญ่อลังการในละครสั้นที่มีงบประมาณจำกัด แถมยังมีนักแสดงไม่กี่คนและเวลาที่รัดตัว
ปัญหาเหล่านี้กำลังจะกลายเป็นเรื่องในอดีต เพราะปัจจุบัน ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้เข้ามาตอบโจทย์นี้ พร้อมปฏิวัติวงการผลิตตั้งแต่การเขียนบทไปจนถึงการตัดต่อ
จาง ชื่ออวี่ ช่างเทคนิคฝ่ายโพสต์โปรดักชันจากบริษัท Dongyang Gewuzhizhi Culture Media ที่ตั้งอยู่ในโรงถ่ายภาพยนตร์เหิงเตี้ยน (Hengdian World Studios) เปิดเผยกับสำนักข่าวซินหัวว่า โมเดลภาษาขนาดใหญ่ของ AI ก้าวกระโดดไปมากโดยเฉพาะในปีนี้ ทำให้กระบวนการทำงานราบรื่น แม่นยำ และมีประสิทธิภาพอย่างน่าตกใจ "สิ่งที่ผมเคยต้องใช้เวลาสร้างนานหลายวัน AI สามารถทำเสร็จได้ในเวลาเพียงไม่กี่นาที แถมยังให้ความต่อเนื่องและสมจริงมากกว่าเดิมด้วย"
ในฐานะศูนย์กลางการผลิตภาพยนตร์ที่ได้รับฉายาว่าฮอลลีวูดแห่งเมืองจีน เหิงเตี้ยน เวิลด์ สตูดิโอ ได้สร้างห่วงโซ่อุตสาหกรรมที่แข็งแกร่งเพื่อรองรับการเติบโตนี้ โดยหลู่ ผิงผิง รองผู้อำนวยการศูนย์บริการพัฒนาอุตสาหกรรมภาพยนตร์และโทรทัศน์เหิงเตี้ยน กล่าวว่า ทางศูนย์ให้ความสำคัญกับการรวมเทคโนโลยีเข้ากับอุตสาหกรรมเพื่อขับเคลื่อนการเติบโต ตัวอย่างเช่นบริษัท Dongyang Yuanying Technology ที่เข้ามาดำเนินงานและมีส่วนร่วมในการผลิตละครสั้นมากกว่า 20 เรื่อง โดยเน้นการใช้ AI สร้างฉากยิ่งใหญ่ในแนววิทยาศาสตร์และแฟนตาซี รวมถึงการเพิ่มสเปเชียลเอฟเฟกต์ให้กับฟุตเทจที่ถ่ายทำไปแล้ว
เพิ่มสปีดการผลิต จากหลักสัปดาห์สู่หลักชั่วโมง
อิทธิพลของ AI ไม่ได้หยุดอยู่แค่เทคนิคพิเศษ แต่กำลังปรับเปลี่ยนขั้นตอนการทำงานตั้งแต่การเขียนบทไปจนถึงการตลาด ตามรายงานจากสมาคมวิศวกรภาพยนตร์และโทรทัศน์แห่งประเทศจีน
หัวใจสำคัญของซีรีส์แนวตั้งคือความรวดเร็วในการปล่อยเนื้อหาใหม่ ๆ สู่ตลาด บริษัทสื่อยักษ์ใหญ่อย่าง Huace Group ได้พัฒนาโมเดล AI ของตนเองที่ฝึกฝนจากข้อมูลลิขสิทธิ์และบทละครกว่า 50,000 ชั่วโมง ทำให้สามารถประเมินนวนิยายที่มีความยาวสูงสุด 1.2 ล้านคำได้อย่างรวดเร็ว งานที่ทีมงานมนุษย์เคยต้องใช้เวลาถึง 10-14 วัน AI สามารถทำเสร็จได้ในเวลาเพียง 1-2 ชั่วโมง นี่จึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมค่ายหนังจีนถึงผลิตซีรีส์แนวใหม่ ๆ ออกมาป้อนตลาดได้รวดเร็วทันใจ
AI คือผู้ช่วย แต่ "คน" ยังเป็นเจ้าของไอเดีย
แม้ AI จะเก่งแค่ไหน แต่ผู้เชี่ยวชาญในวงการยังคงเน้นย้ำว่ามนุษย์คือหัวใจหลักของการสร้างสรรค์ AI ไม่ได้มาแทนที่ แต่มาช่วยจัดการงานประจำที่ต้องทำซ้ำ ๆ เพื่อให้คนมีเวลาไปโฟกัสกับการสร้างสรรค์นวัตกรรมและอารมณ์ของเรื่องราวได้มากขึ้น
"AI ไม่ได้มาเพื่อแทนที่มนุษย์ แต่มันเปลี่ยนกระบวนการผลิต ในระยะสั้นหัวใจของการสร้างสรรค์ยังคงเป็นผู้คน สิ่งสำคัญคือความสามารถในการควบคุม AI เพื่อถ่ายทอดจินตนาการออกมาให้ตรงใจที่สุด" หลิน จู จาก Yuanying กล่าว
ขณะที่ฟู่ ปินซิง ประธาน Huace Group เสริมว่า AI คือเครื่องมือที่ช่วยลดกำแพงให้ผู้กำกับหน้าใหม่สามารถเปลี่ยนภาพในจินตนาการออกมาเป็นภาพร่างหรือสตอรี่บอร์ดได้ง่ายขึ้น เพื่อไปเสนอขายไอเดียให้นายทุนได้เห็นภาพชัดเจนกว่าเดิม
AI กับบทบาทผู้พิทักษ์ลิขสิทธิ์ในโลกดิจิทัล
ท่ามกลางการผลิตเนื้อหาที่รวดเร็วขึ้น การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญากลายเป็นภารกิจคู่ขนานที่สำคัญ โดยในปีนี้ เหิงเตี้ยนได้เริ่มใช้ระบบมอนิเตอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI คอยตรวจจับการละเมิดลิขสิทธิ์บนโลกออนไลน์ ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่าการใช้คนตรวจสอบหลายเท่า ช่วยแก้ปัญหาการถูกนำคลิปไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรังของวงการซีรีส์สั้นมาอย่างยาวนาน อีกทั้งยังช่วยปกป้องรายได้ให้คนสร้างสรรค์ผลงานได้อย่างมหาศาล
ยกตัวอย่างเช่น มณฑลเจียงซีทางภาคตะวันออกของจีนได้จัดตั้งหน่วยงานแห่งแรกเพื่อคุ้มครองลิขสิทธิ์ละครสั้น โดยใช้ AI ปกป้องการสร้างสรรค์และการจัดจำหน่าย ซึ่งตั้งแต่การจัดตั้งในปี 2567 ถึงเดือนพฤษภาคมของปีนี้ หน่วยงานดังกล่าวสามารถคลี่คลายคดีละเมิดลิขสิทธิ์ได้ 8 คดี และกู้คืนความเสียหายได้หลายสิบล้านหยวน