สำนักข่าวเกียวโดรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า ประเทศสมาชิกกลุ่ม G7 จะร่วมมือกันยกระดับการกำกับดูแลธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศยักษ์ใหญ่ของโลก ซึ่งถูกมองว่ามีพฤติกรรมเอาเปรียบบริษัทขนาดเล็กด้วยการกีดกันไม่ให้เข้าตลาด
แหล่งข่าวระบุว่า หน่วยงานป้องกันการผูกขาดจากประเทศสมาชิกกลุ่ม G7 ต่างมีความคิดเห็นตรงกันเกี่ยวกับความจำเป็น ในการร่วมกันตรวจสอบและปราบปรามการละเมิดต่างๆ ในขณะที่บริษัทไอทียักษ์ใหญ่มีการขยายการดำเนินงานทั่วโลกด้วยการซื้อและควบรวมกิจการ
วาระดังกล่าวคาดว่าจะมีการพูดถึงในที่ประชุมสุดยอดกลุ่ม G7 เดือนส.ค.นี้ที่ประเทศฝรั่งเศส โดยมีผู้นำอังกฤษ แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา รวมถึงสหภาพยุโรป ร่วมการประชุมนี้ด้วย
นอกจากนี้ กลุ่ม G7 ยังจะมีการเปิดเผยผลการตรวจสอบบริษัทต่าง ๆ รวมถึงแนวทางในการจัดการกับปัญหาการละเมิด
ผลการหารือร่วมกันนี้อาจมีการรายงานในการประชุมรัฐมนตรีกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางของกลุ่ม G7 ในเดือนก.ค.นี้ และอาจมีการรวมข้อตกลงดังกล่าวไว้ในปฏิญญากลุ่ม G7
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังมีรายงานข่าวว่า รัฐบาลสหรัฐกำลังเริ่มการสอบสวนว่า บริษัทอเมซอน แอปเปิล เฟซบุ๊ก และ กูเกิล ทำการผูกขาดตลาดหรือไม่ ซึ่งจะเป็นการสอบสวนในวงกว้างครั้งแรกสำหรับบรรดาบริษัทขนาดใหญ่ที่สุดของโลก
แหล่งข่าวระบุว่า คณะกรรมาธิการการค้าของรัฐบาลกลาง (FTC) และกระทรวงยุติธรรม (DOJ) ซึ่งบังคับใช้กฏหมายต่อต้านการผูกขาดตลาดในสหรัฐ ได้แบ่งกันรับผิดชอบกำกับดูแลบริษัท 4 แห่ง โดย FTC กำกับดูแลบริษัทอเมซอนและเฟซบุ๊ก ขณะที่ DOJ กำกับดูแลบริษัทแอปเปิลและกูเกิล
ทั้งนี้ บริษัทด้านเทคโนโลยีเผชิญกับการโจมตีในสหรัฐและทั่วโลก ซึ่งเกิดจากความวิตกของบรรดาบริษัทคู่แข่ง สมาชิกสภานิติบัญญัติ และกลุ่มผู้บริโภคว่า บริษัทเหล่านี้มีอำนาจมากเกินไป และเป็นอันตรายกับผู้ใช้ และคู่แข่งทางธุรกิจ