นายจอร์ช ฟรายเดนเบิร์ก รัฐมนตรีกระทรวงการคลังออสเตรเลีย กล่าวเตือนว่า บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี เช่น กูเกิ้ล และ เฟซบุ๊ก จะเผชิญกับข้อจำกัดด้านอำนาจทางการตลาด
นายฟรายเดนเบิร์ก ได้ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวแฟร์เฟ็กซ์ มีเดีย ว่า เกิด "ประเด็นการแข่งขันอย่างแท้จริง" ในตลาดโฆษณาดิจิทัล อันเนื่องมาจากอำนาจที่เพิ่มขึ้นของอินเทอร์เน็ต
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อต้นเดือนก.ค. ที่ผ่านมา คณะกรรมการด้านการแข่งขันและคุ้มครองผู้บริโภคของออสเตรเลีย (ACCC) ได้ยื่นรายงานต่อรัฐบาลออสเตรเลียเกี่ยวกับผลกระทบของการครอบงำตลาดสื่อดั้งเดิมของกูเกิ้ลและเฟซบุ๊ก
อย่างไรก็ตาม รายงานฉบับดังกล่าวยังไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณะ ทว่าความเห็นของฟรายเดนเบิร์กระบุว่า รัฐบาลกำลังวางแผนที่จะควบคุมอำนาจของยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของสหรัฐ
"นอกจากนี้ ยังมีประเด็นเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว การรวบรวมข้อมูล และวิธีการที่นำข้อมูลไปใช้" รมว.กล่าว
"และเป็นที่ชัดเจนว่า บริษัทด้านโซเชียล มีเดีย และเสิร์ช เอนจิน ออนไลน์ จะเติบโตขึ้นอีกในอนาคต เนื่องจากเศรษฐกิจเข้าสู่ความเป็นดิจิทัลมากยิ่งขึ้น และอินเทอร์เน็ตมีบทบาทอย่างยิ่งในเชิงพาณิชย์"
ข้อมูลของ ACCC ระบุว่า ชาวออสเตรเลีย 68% ใช้เฟซบุ๊กเป็นประจำทุกเดือน และมีการใช้กูเกิ้ลในการค้นหาทางอินเทอร์เน็ตจากคอมพิวเตอร์ประมาณ 90% และจากอุปกรณ์ไร้สาย 98%
ขณะเดียวกัน กูเกิ้ลและเฟซบุ๊ก ได้รับเงินด้านโฆษณาทางดิจิทัลสัดส่วน 68% มูลค่า 8 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือประมาณ 5.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่ใช้ไปกับการโฆษณาดิจิทัลในประเทศทุกๆปี
เมื่อปี 2562 มีการเรียกเก็บภาษีนิติบุคคลทั้งสองบริษัทเพียง 38.3 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือ 26.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ เมื่อถามว่าสองบริษัทนั้นจ่ายภาษีเพียงพอหรือไม่ นายฟรายเดนเบิร์กกล่าวว่า "เป้าหมายของเราคือเพื่อให้แน่ใจว่าทุกบริษัทจ่ายภาษีอย่างยุติธรรม"