กระทรวงศึกษาธิการสหรัฐฯ แจ้งต่อมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดเมื่อวันจันทร์ (5 พ.ค.) ว่าจะระงับเงินทุนวิจัยและความช่วยเหลือต่าง ๆ มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ในอนาคต จนกว่าสถาบันจะยอมปฏิบัติตามข้อเรียกร้องจากรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
มาตรการนี้สะท้อนให้เห็นถึงกลยุทธ์ของรัฐบาลภายใต้การนำของปธน.ทรัมป์ที่พร้อมใช้อำนาจทางการเงินเป็นเครื่องมือกดดันสถาบันต่าง ๆ ตั้งแต่บริษัทกฎหมายไปจนถึงมหาวิทยาลัย ให้ยอมเปลี่ยนแปลงนโยบายอย่างกว้างขวาง มิฉะนั้นจะสูญเสียเงินทุนอุดหนุนและสัญญาต่าง ๆ จากรัฐบาลกลางมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์
ขณะเดียวกัน โฆษกของฮาร์วาร์ดออกแถลงการณ์ตอบโต้ว่า การกระทำของกระทรวงศึกษาธิการเป็นความพยายามที่จะควบคุมมหาวิทยาลัยอย่างไม่เคยมีมาก่อนและไม่เหมาะสม พร้อมยืนยันว่าจะต่อสู้กับการแทรกแซงที่ผิดกฎหมาย ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อขัดขวางงานวิจัยและนวัตกรรมที่มีความสำคัญต่อความมั่นคงและความปลอดภัยของชาวอเมริกัน
รายงานระบุว่า การระงับเงินทุนในอนาคตแทนที่จะตัดเงินทุนในปัจจุบัน อาจเป็นกลยุทธ์ใหม่ของรัฐบาลเพื่อหลีกเลี่ยงการท้าทายทางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้น
ทั้งนี้ ความขัดแย้งนี้ระหว่างทรัมป์และมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดมีรากฐานมาจากการประท้วงสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ในมหาวิทยาลัย ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากอิสราเอลเปิดฉากโจมตีกาซาเพื่อตอบโต้การโจมตีของกลุ่มฮามาสเมื่อเดือนต.ค. 2566 ซึ่งรัฐบาลทรัมป์มองว่าเป็นการแสดงออกถึงการต่อต้านชาวยิว