ฟาร์ฮาน ฮัก รองโฆษกเลขาธิการสหประชาชาติ (UN) เปิดเผยในวันพฤหัสบดี (8 พ.ค.) ว่า อันโตนิอู กุแตเรช เลขาธิการ UN ได้แสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อเหตุการณ์โจมตีด้วยโดรนระลอกล่าสุดในเมืองพอร์ตซูดาน ซึ่งถือเป็นเส้นเลือดใหญ่ในการลำเลียงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าสู่ประเทศซูดาน โดยชี้ว่าสถานการณ์ดังกล่าวทำให้ซูดานต้องการความช่วยเหลือมากขึ้น และยังทำให้ปฏิบัติการด้านมนุษยธรรมในประเทศซับซ้อนยิ่งขึ้นอีกด้วย
ฮักแถลงข่าวประจำวันว่า "ท่านเลขาธิการฯ เตือนว่าการยกระดับความรุนแรงครั้งสำคัญนี้ อาจนำไปสู่ความสูญเสียต่อชีวิตพลเรือนเป็นวงกว้าง และสร้างความเสียหายเพิ่มเติมต่อโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นอย่างยิ่งยวด"
ฮักระบุว่า ความกังวลของเลขาธิการ UN ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น เมื่อความขัดแย้งได้ขยายวงไปยังพื้นที่ซึ่งเคยเป็นที่พักพิงชั่วคราวของประชาชนจำนวนมากที่ต้องพลัดถิ่นมาจากกรุงคาร์ทูม เมืองหลวงของซูดาน และพื้นที่อื่น ๆ ก่อนหน้านี้
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นับตั้งแต่เดือนม.ค.ที่ผ่านมา การโจมตีที่พุ่งเป้าไปยังสถานีไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐานสำคัญอื่น ๆ ทั่วประเทศ ได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการเข้าถึงไฟฟ้า บริการสาธารณสุข น้ำสะอาด และอาหารของประชาชน
ฮักกล่าวว่า เลขาธิการ UN ย้ำว่า ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งจำเป็นต้องปฏิบัติตามพันธกรณีภายใต้กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด ซึ่งรวมถึงการไม่พุ่งเป้าโจมตีไปยังพลเรือนและทรัพย์สินของพลเรือน การใช้มาตรการป้องกันที่เป็นไปได้ทั้งหมดเพื่อหลีกเลี่ยง หรืออย่างน้อยที่สุดคือลดผลกระทบต่อพลเรือนที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่เจตนา นอกจากนี้ ยังต้องอนุญาตและอำนวยความสะดวกให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมสามารถเข้าถึงพลเรือนที่เดือดร้อนได้อย่างรวดเร็วและปราศจากอุปสรรค
เลขาธิการ UN ยังได้เรียกร้องให้ทุกฝ่ายร่วมมืออย่างสร้างสรรค์กับกลไกสนับสนุนการไกล่เกลี่ยที่มีอยู่ เพื่อช่วยให้สามารถบรรลุทางออกทางการเมืองได้ โดยโฆษกเน้นย้ำถึงการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องของ UN ในการแสวงหาหนทางคลี่คลายวิกฤตการณ์ครั้งนี้
เลขาธิการ UN ยังคงเรียกร้องให้มีการยุติการสู้รบโดยทันที และเน้นย้ำว่าการเจรจาถือเป็นหนทางเดียวที่จะนำไปสู่สันติภาพตามที่ประชาชนชาวซูดานปรารถนา ตามถ้อยแถลงของโฆษก
อนึ่ง เหตุการณ์โจมตีด้วยโดรนเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (6 พ.ค.) มุ่งเป้าไปยังที่ตั้งทางยุทธศาสตร์หลายแห่งในเมืองพอร์ตซูดาน ซึ่งเป็นเมืองท่าสำคัญริมทะเลแดงทางตะวันออกของซูดาน โดยจุดที่ถูกโจมตีรวมถึงสนามบินนานาชาติ โรงแรมที่ตั้งอยู่ใกล้กับทำเนียบประธานาธิบดีชั่วคราว และท่าเรือขนส่งน้ำมัน