หน่วยงานความมั่นคงของยูเครน หรือ SBU ได้แถลงวันนี้ (9 พ.ค.) ว่า ตนได้เปิดโปงเครือข่ายสายลับ ซึ่งทางหน่วยงานเชื่อว่ารัฐฮังการีเป็นผู้บงการ เครือข่ายนี้มุ่งรวบรวมข่าวกรองเกี่ยวกับการป้องกันประเทศของยูเครน นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ยูเครนที่มีการตรวจพบเครือข่ายสายลับจากฮังการีที่จงใจเป็นปฏิปักษ์ต่อผลประโยชน์ของยูเครน
ทั้งนี้ ฮังการีเป็นสมาชิกของทั้งสหภาพยุโรป (EU) และองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) ซึ่งทั้งสองกลุ่มนี้ถือเป็นพันธมิตรใกล้ชิดกับยูเครนในการทำสงครามกับรัสเซีย
อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ระหว่างยูเครนกับฮังการีมักตึงเครียด โดยนายกรัฐมนตรีฮังการี วิกเตอร์ ออร์บาน มีท่าทีคลางแคลงใจต่อการให้ความช่วยเหลือทางทหารจากชาติตะวันตกแก่ยูเครน
นอกจากนี้ นายกฯ ออร์บานยังคงสานสัมพันธ์อันดีกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย จุดยืนนี้ทำให้เขาแตกต่างจากบรรดาผู้นำส่วนใหญ่ใน EU ซึ่งพยายามโดดเดี่ยวปธน.ปูติน นับตั้งแต่รัสเซียส่งทหารรุกรานยูเครนเมื่อปี 2565
SBU เปิดเผยว่าผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 รายเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ทหารของยูเครน โดยผู้ต้องสงสัยทั้งสองได้รับการชักชวนจากผู้ควบคุมซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของหน่วยข่าวกรองทางทหารฮังการี ทั้งยังได้รับเงินสดและอุปกรณ์พิเศษเพื่อใช้สื่อสารลับด้วย
สายลับเหล่านี้ได้รับมอบหมายให้ส่งต่อรายละเอียดเกี่ยวกับที่ตั้งระบบป้องกันภัยทางอากาศของยูเครน รวมถึงข้อมูลศักยภาพทางทหารอื่น ๆ ในแคว้นซาการ์ปัจจา ทางตอนใต้ของยูเครน ซึ่งมีพรมแดนติดกับฮังการี ให้แก่ผู้ควบคุมชาวฮังการี
อนึ่ง ในยูเครนมีกลุ่มชาติพันธุ์ฮังการีอาศัยอยู่ราว 150,000 คน โดยที่ผ่านมานั้น รัฐบาลยูเครนและฮังการีเคยมีข้อพิพาทกันเกี่ยวกับสิทธิของชุมชนนี้ในการใช้ภาษาแม่ของตน