เจิ้ง ลี่จวิน รองนายกรัฐมนตรีไต้หวันเปิดเผยในวันนี้ (16 พ.ค.) ว่า เจินนี หยาง หัวหน้าคณะเจรจาการค้าของไต้หวัน และ เจมิสัน เกรียร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) ได้พบปะหารือกันประเด็นการค้าในระหว่างการประชุมรัฐมนตรีการค้าของกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค) ณ เกาะเชจู ประเทศเกาหลีใต้
เจิ้งแสดงความเชื่อมั่นว่า "การเจรจาทวิภาคีอันดี" ครั้งนี้ จะนำไปสู่การลดภาษีนำเข้าที่สหรัฐฯ เรียกเก็บจากสินค้าไต้หวัน และส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องในอนาคต
"ไต้หวันมั่นใจว่าจะสามารถบรรลุดุลการค้าได้ ด้วยการเพิ่มการสั่งซื้อสินค้าจากสหรัฐฯ" เจิ้งกล่าว พร้อมเสริมว่า ปัจจุบันสหรัฐฯ ถือเป็นจุดหมายปลายทางการลงทุนในต่างแดนที่สำคัญที่สุดของไต้หวัน
ก่อนหน้านี้ ไต้หวันเคยเผชิญความเสี่ยงที่สินค้าส่งออกจะถูกสหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีนำเข้าสูงถึง 32% ภายใต้มาตรการภาษีใหม่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แต่เมื่อเดือนที่แล้ว ทรัมป์ได้สั่งพักการบังคับใช้แผนดังกล่าวเป็นเวลา 90 วัน ซึ่งนำมาสู่การเจรจาในครั้งนี้