หน่วยข่าวกรองทหาร GUR ของยูเครนเปิดเผยผ่านเทเลแกรมในวันอาทิตย์ (18 พ.ค.) ว่า รัสเซียมีแผนจัดการ "ฝึกซ้อมและสู้รบ" ด้วยการยิงขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) จากภูมิภาคสเวียร์ดลอฟสค์ของรัสเซีย โดยมีเป้าหมายเพื่อข่มขวัญยูเครนและชาติตะวันตก
GUR ระบุว่า "เพื่อสร้างแรงกดดันและข่มขวัญยูเครน รวมถึงประเทศสมาชิกอียูและนาโต ประเทศผู้รุกรานอย่างรัสเซียมีความตั้งใจที่จะจัดการฝึกซ้อมและสู้รบด้วยการยิงขีปนาวุธข้ามทวีป RS-24 จากระบบยิงขีปนาวุธ Yars" โดยขีปนาวุธดังกล่าวมีระยะหวังผลมากกว่า 10,000 กิโลเมตร
อย่างไรก็ตาม รัสเซียไม่ได้แสดงความคิดเห็นใด ๆ ต่อถ้อยแถลงของ GUR ทั้งยังไม่ตอบคำถามเกี่ยวกับแผนการทดสอบยิงขีปนาวุธนิวเคลียร์
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (17 พ.ค.) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวว่า เขาจะพูดคุยกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย และประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ในวันจันทร์นี้ (19 พ.ค.) เพื่อผลักดันข้อตกลงหยุดยิงระหว่างทั้งสองประเทศ
"ผมจะโทรศัพท์คุยกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียในวันจันทร์ เวลา 10.00 น." ทรัมป์โพสต์ข้อความบนทรูธโซเชียล และเสริมว่าหัวข้อของการหารือครั้งนี้คือหยุดการนองเลือดที่คร่าชีวิตทหารรัสเซียและยูเครนเฉลี่ยมากกว่า 5,000 นายต่อสัปดาห์ รวมทั้งจะพูดคุยเรื่องการค้าด้วย
ทรัมป์กล่าวต่อไปว่า "จากนั้นจะเป็นการพูดคุยกับประธานาธิบดีเซเลนสกีของยูเครน และต่อด้วยการคุยกับสมาชิกนาโตหลายประเทศ ร่วมกับประธานาธิบดีเซเลนสกี" พร้อมแสดงความหวังว่า "การหยุดยิงจะเกิดขึ้น"
ทั้งนี้ คณะผู้แทนรัสเซียและยูเครนเสร็จสิ้นการเจรจาสันติภาพที่กรุงอิสตันบูลของตุรกีเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (16 พ.ค.) ซึ่งเป็นการเจรจาโดยตรงของทั้งสองฝ่ายเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2565 ผลลัพธ์ที่สำคัญของการเจรจาซึ่งกินเวลาราวสองชั่วโมงคือ ที่ประชุมสามารถบรรลุข้อตกลงในการแลกเปลี่ยนนักโทษฝ่ายละ 1,000 คน โดยจะมีการกำหนดวันที่จะดำเนินการในเวลาต่อไป
อย่างไรก็ตาม นอกจากการแลกเปลี่ยนนักโทษแล้ว รัสเซียและยูเครนยังคงไร้ความคืบหน้าในการลดความขัดแย้งของทั้งสองฝ่าย