ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันพุธ (28 พ.ค.) ว่า มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดควรจำกัดการรับนักศึกษานานาชาติไว้ที่ไม่เกิน 15% ของจำนวนนักศึกษาที่รับเข้าในแต่ละปีการศึกษา
ทรัมป์อ้างว่านักศึกษาต่างชาติบางคนมีแนวคิด "หัวรุนแรง" และ "ผู้สร้างปัญหา" พร้อมกดดันให้ฮาร์วาร์ดเปิดเผยรายชื่อนักศึกษาที่เกิดในต่างประเทศ รวมถึงประเทศต้นกำเนิดให้รัฐบาลสหรัฐฯ ทราบ
ทรัมป์แถลงต่อสื่อมวลชนว่า "ผมคิดว่าพวกเขาควรกำหนดเพดานที่ประมาณ 15% ... เรามีคนที่อยากเข้าฮาร์วาร์ดและมหาวิทยาลัยอื่น ๆ แต่เข้าไม่ได้ เพราะมีนักศึกษาต่างชาติอยู่" พร้อมเสริมว่า "ผมต้องการให้แน่ใจว่านักศึกษาต่างชาติที่เข้ามาเรียนในสหรัฐฯ เป็นคนที่รักประเทศเรา"
ทรัมป์เสริมว่า นักศึกษาจำนวนมากเหล่านั้นเป็นผู้สร้างปัญหาที่ถูกชักจูงโดยพวกคลั่งซ้ายในสหรัฐฯ
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ตามข้อมูลของมหาวิทยาลัย ฮาร์วาร์ดรับนักศึกษานานาชาติ 6,793 คนในปีการศึกษา 2567-2568 คิดเป็น 27.2% ของจำนวนนักศึกษาทั้งหมดที่ได้รับการตอบรับ
เฉพาะจากประเทศในเอเชีย มีนักศึกษาและนักวิชาการชาวญี่ปุ่นราว 260 คน เทียบกับจีนประมาณ 2,100 คน อินเดีย 790 คน เกาหลีใต้ 430 คน และสิงคโปร์ 150 คน
ทั้งนี้ ถ้อยแถลงของทรัมป์มีขึ้นท่ามกลางความพยายามของรัฐบาลในการกดดันให้ฮาร์วาร์ดปรับเปลี่ยนนโยบายภายในหลายด้าน เช่น การรับนักศึกษาและการจ้างบุคลากร หลังมหาวิทยาลัยถูกวิจารณ์ว่ามีแนวโน้มต่อต้านชาวยิวและมีบรรยากาศทางวิชาการที่เอนเอียงไปทางเสรีนิยมมากเกินไป