เจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เข้าพบประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (29 พ.ค.) พร้อมย้ำชัดว่าเฟดจะกำหนดนโยบายการเงินให้สอดคล้องกับกฎหมาย
เฟดระบุในแถลงการณ์ว่า การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นที่ทำเนียบขาวตามคำเชิญของทรัมป์ โดยทั้งสองได้หารือเกี่ยวกับพัฒนาการทางเศรษฐกิจ รวมถึงการเติบโต การจ้างงาน และอัตราเงินเฟ้อ พร้อมเสริมว่า พาวเวลไม่ได้เผยความคาดหวังของตนต่อแนวนโยบายการเงินในอนาคต
เฟดกล่าวว่า ในการพบกับทรัมป์ครั้งแรกหลังจากเขากลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี พาวเวลเน้นย้ำเพียงว่า ทิศทางของนโยบายจะขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้รับในอนาคตทั้งหมด และสิ่งที่ข้อมูลเหล่านั้นบ่งชี้ต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ พาวเวลยังบอกกับทรัมป์อีกว่า เขาและคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) "จะกำหนดนโยบายการเงินตามกรอบของกฎหมาย เพื่อสนับสนุนการจ้างงานสูงสุดและรักษาเสถียรภาพของราคา โดยการตัดสินใจทั้งหมดจะอิงจากการวิเคราะห์ที่รอบคอบ เป็นกลาง และไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองเท่านั้น"
ขณะเดียวกัน แคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาวกล่าวว่า แถลงการณ์ของเฟดหลังการประชุมเป็นความจริง แต่เสริมว่าทรัมป์เชื่อว่าพาวเวลกำลัง "ตัดสินใจผิดพลาดที่ไม่ลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งทำให้สหรัฐฯ เสียเปรียบจีนและประเทศอื่น ๆ ทางเศรษฐกิจ"
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทรัมป์ได้กดดันเฟดให้ลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยการวิจารณ์อย่างดุเดือดต่อท่าทีของพาวเวลทำให้เกิดความกังวลว่าความเป็นอิสระของเฟดอาจถูกสั่นคลอน
ทั้งนี้ เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา เฟดได้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้เป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน โดยให้เหตุผลว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น พร้อมชี้ว่าจำเป็นต้องรอดูผลกระทบของนโยบายขึ้นภาษีนำเข้าของทรัมป์ว่าจะส่งผลต่อเศรษฐกิจอย่างไรในระยะต่อไป