ธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ (SNB) ยืนยันไม่ได้แทรกแซงค่าเงินฟรังก์สวิส หลังจากกระทรวงการคลังสหรัฐฯ เพิ่มสวิตเซอร์แลนด์ในรายชื่อประเทศที่ถูกจับตาด้านการดำเนินนโยบายค่าเงินและการค้าอย่างไม่เป็นธรรม
SNB ระบุในแถลงการณ์วันนี้ (6 มิ.ย.) ว่า ธนาคารฯ ไม่ได้แทรกแซงค่าเงินฟรังก์สวิส พร้อมย้ำว่าไม่ได้มีเจตนาใช้ค่าเงินเพื่อบิดเบือนดุลการค้าหรือสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันให้เศรษฐกิจสวิตเซอร์แลนด์โดยไม่เป็นธรรม
นอกจากนี้ SNB ยังเปิดเผยว่ายังคงติดต่อสื่อสารกับทางการสหรัฐฯ เพื่อชี้แจงสถานการณ์เศรษฐกิจและนโยบายการเงินของประเทศ พร้อมยืนยันว่าจะใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยและการแทรกแซงตลาดเงินตราต่างประเทศ เพื่อควบคุมเงินเฟ้อให้อยู่ในกรอบ 02%
ทั้งนี้ แม้ SNB ไม่เปิดเผยว่ามีแผนหารือเพิ่มเติมกับสหรัฐฯ หรือไม่ แต่ย้ำว่าทุกนโยบายยังคงยึดผลประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้เพิ่มรายชื่อประเทศที่ต้องจับตาด้านค่าเงินเป็น 9 ประเทศ โดยเพิ่มไอร์แลนด์และสวิตเซอร์แลนด์ในรายชื่อดังกล่าว
ส่วน 7 ประเทศที่ยังคงอยู่ในรายชื่อเดิมได้แก่ เยอรมนี จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ ไต้หวัน และเวียดนาม ซึ่งล้วนเป็นประเทศที่มีบทบาทสำคัญทางเศรษฐกิจและการค้ากับสหรัฐฯ
รายชื่อประเทศที่ถูกจับตาเรื่องค่าเงินนี้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่สมัยของประธานาธิบดีบารัค โอบามาในเดือนเม.ย. 2559 หลังจากที่สหรัฐฯ บังคับใช้กฎหมายส่งเสริมและบังคับใช้การค้า (Trade Facilitation and Trade Enforcement Act) ปี 2558
กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ใช้เกณฑ์ 3 ข้อในการพิจารณาว่าประเทศใดอาจแทรกแซงค่าเงิน ได้แก่ การมีดุลการค้าเกินดุลกับสหรัฐฯ อย่างน้อย 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ, มียอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดมากกว่า 3% ของ GDP และทำการแทรกแซงตลาดอัตราแลกเปลี่ยนผ่านการซื้อเงินตราต่างประเทศอย่างต่อเนื่องในทางเดียว โดยประเทศที่เข้าเกณฑ์ 2 ใน 3 ข้อนี้ จะถูกขึ้นบัญชีเฝ้าจับตา