เจ้าหน้าที่อิสราเอลได้สกัดเรือของกลุ่มนักเคลื่อนไหวที่พยายามฝ่าการปิดล้อมทางทะเลเพื่อเข้าไปยังฉนวนกาซา พร้อมกับควบคุมตัวเกรตา ธันเบิร์ก นักรณรงค์ด้านสภาพภูมิอากาศจากสวีเดน และสมาชิกในกลุ่มนักเคลื่อนไหวอีก 11 คน
กองทัพเรืออิสราเอลระบุว่า เรือที่ถูกสกัดคือเรือยอช์ตแมดลีน (Madleen) ซึ่งติดธงชาติอังกฤษ และบรรทุกสิ่งของช่วยเหลือเชิงสัญลักษณ์ เช่น ข้าวสารและนมผงสำหรับทารก โดยเรือลำดังกล่าวถูกสกัดห่างจากชายฝั่งกาซาประมาณ 200 กิโลเมตร พร้อมแจ้งเตือนว่าเขตน่านน้ำบริเวณดังกล่าวถูกปิดล้อม และแนะนำให้ส่งความช่วยเหลือผ่านท่าเรือเมืองอัชด็อด ตามช่องทางที่ทางการกำหนด
องค์กรเอ็นจีโอ ฟรีดอม โฟลทิลลา โคลิชัน (FFC) ระบุผ่านทางเอ็กซ์ในวันนี้ (10 มิ.ย.) ว่า นักเคลื่อนไหวทั้ง 12 รายถูกควบคุมตัวหลังเดินทางมาถึงท่าเรือและกำลังถูกส่งตัวให้กับเจ้าหน้าที่อิสราเอล ซึ่งคาดว่าจะถูกย้ายไปยังสถานกักกัน หากไม่ยอมออกจากประเทศโดยทันที แต่หากบุคคลเหล่านี้ตกลงที่จะเดินทางกลับ ก็อาจได้รับอนุญาตให้เดินทางออกจากสนามบินเทลอาวีฟได้ในคืนเดียวกัน พร้อมชี้ว่าการกระทำของอิสราเอลนั้นละเมิดหลักกฎหมายระหว่างประเทศ
เมื่อวันอาทิตย์ (8 มิ.ย.) อิสราเอล คัตซ์ รัฐมนตรีกลาโหมของอิสราเอล ได้แถลงว่ารัฐบาลจะไม่ยอมให้เรือลำใดฝ่าการปิดล้อมทางทะเลเพื่อเข้าไปยังฉนวนกาซา โดยให้เหตุผลว่าต้องป้องกันการลักลอบนำอาวุธเข้าสู่มือกลุ่มฮามาส
รายงานระบุว่าอิสราเอลควบคุมการส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปยังกาซาอย่างจำกัด โดยร่วมมือกับองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร เช่น กาซา ฮิวแมนิแทเรียน ฟาวน์เดชัน (Gaza Humanitarian Foundation GHF) ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิสราเอลและสหรัฐฯ
ขณะเดียวกัน พันธมิตรยุโรปที่ใกล้ชิดกับอิสราเอลหลายประเทศ อาทิ เยอรมนี อังกฤษ และฝรั่งเศส เริ่มแสดงความกังวลและออกมาวิพากษ์วิจารณ์วิธีการดำเนินการด้านสงครามของอิสราเอลมากขึ้น เนื่องจากส่งผลกระทบต่อประชาชนในกาซาและก่อให้เกิดปัญหาการขาดแคลนอาหารอย่างรุนแรง พร้อมกับพิจารณามาตรการกดดันทางเศรษฐกิจและการจำกัดการส่งออกอาวุธเพื่อให้อิสราเอลยุติสงคราม