สื่อกัมพูชา Khmer Times รายงานวันนี้ (20 มิ.ย.) ว่า พลเอก เตีย เซ็ยฮา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของกัมพูชา ได้กล่าวว่าประเทศไทยได้ละเมิดบันทึกความเข้าใจ (MOU) ปี 2543 (MOU 2000) ที่ทำขึ้นระหว่างสองประเทศไปแล้วถึง 695 ครั้ง
ในโอกาสที่เข้าร่วมเป็นประธานในพิธีรำลึกครบรอบ 48 ปีของการเดินทางเพื่อโค่นล้มระบอบฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของพล พต พล.อ.เตีย เซ็ยฮา ได้เน้นย้ำว่าไทยเป็นฝ่ายที่ละเมิด MOU 2543 และละเมิดบ่อยครั้งกว่ากัมพูชามาก
พล.อ.เตียได้ยกตัวอย่างการละเมิด เช่น การสร้างถนนอย่างผิดกฎหมาย และการลาดตระเวนชายแดน โดยระบุว่า "เราได้รวบรวมเอกสารและหลักฐานทั้งหมดที่แสดงให้เห็นว่าไทยได้บุกรุกหรือไม่เคารพ MOU ปี 2000 เราได้สรุปยอดการละเมิดเบื้องต้นไว้ที่ 695 กรณี และยังคงมีการตั้งด่านและลาดตระเวนโดยไม่แจ้งให้ฝ่ายกัมพูชาทราบ"
พล.อ.เตียกล่าวว่า สิ่งที่ย้อนแย้งก็คือ ในการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ครั้งก่อนหน้านี้ ฝ่ายไทยกลับเป็นผู้กล่าวหาว่ากัมพูชาละเมิด MOU 2543
สิ่งที่ฝ่ายไทยกล่าวหาว่ากัมพูชาละเมิดนั้น เป็นเรื่องอย่างการทำเกษตรข้ามแดนและการร้องเพลงบนปราสาทตาเมือน ในขณะที่ไทยเองกลับเป็นฝ่ายละเมิดข้อตกลงต่อกัมพูชาอย่างสิ้นเชิง
พล.อ.เตีย เซ็ยฮา กล่าวเสริมว่า ฝ่ายไทยมักเรียกร้องสันติภาพและบอกว่าไม่ต้องการมีปัญหากับกัมพูชา พร้อมทั้งชี้ว่า ในเมื่อฝ่ายไทยส่งทหารไปประจำการที่ชายแดนเพื่อป้องกันประเทศ การที่กัมพูชาส่งทหารไปบ้างก็เพื่อปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนและอธิปไตยของตนเองเช่นเดียวกัน