ศาลมาเลเซียมีคำสั่งจำหน่ายคดีฟอกเงินมูลค่า 6.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ของอดีตนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค โดยผู้พิพากษาตัดสินว่า อัยการไม่ได้ยื่นเอกสารที่เกี่ยวข้องต่อฝ่ายจำเลย นับเป็นครั้งที่สองที่คดีของนาจิบถูกจำหน่ายเนื่องจากอัยการไม่ดำเนินการใด ๆ ส่งผลให้เกิดข้อกังขาต่อการปฏิบัติงานและลำดับความสำคัญของสำนักงานอัยการสูงสุด
นาจิบดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของมาเลเซียเป็นเวลา 9 ปี ก่อนที่จะพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งปี 2561 ปัจจุบันเขากำลังรับโทษจำคุก 12 ปีหลังมีคำพิพากษาในปี 2563 ในหนึ่งในหลายคดีที่เกี่ยวข้องกับกองทุน 1MDB ในคดีนี้ นาจิบอ้างว่าตนได้รับพระบรมราชานุญาตจากอดีตสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งมาเลเซียให้กักบริเวณในที่พักแทนการรับโทษในเรือนจำ
ในวันนี้ (20 มิ.ย.) ผู้พิพากษาศาลสูง เค. มูเนียนดี ได้อนุมัติคำร้องของทีมกฎหมายของนาจิบ และมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีชั่วคราว (DNAA) ซึ่งหมายความว่าศาลจะสั่งให้คดีออกจากสารบบความไปก่อน แต่ฝ่ายอัยการสามารถยื่นฟ้องคดีนี้ใหม่ได้ในอนาคต
ชาฟี อับดุลลาห์ ทนายความของนาจิบ ได้ให้เหตุผลต่อศาลว่า การปล่อยให้นาจิบอยู่ในสถานะทางกฎหมายที่ไม่แน่นอนมานานกว่า 6 ปีโดยไม่มีกำหนดวันพิจารณาคดีที่ชัดเจนนั้นไม่เป็นธรรม ภายหลังคำตัดสิน ชาฟีกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า นาจิบรู้สึกโล่งใจอย่างมากที่ภาระคดีความที่ค้างคาอยู่ลดน้อยลง
เมื่อเดือนก.พ. 2562 นาจิบ ราซัค (ปัจจุบันอายุ 72 ปี) ถูกตั้งข้อหาในความผิด 3 กระทงเกี่ยวกับการรับเงิน 27 ล้านริงกิต (ประมาณ 6.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากกิจกรรมผิดกฎหมายเข้าบัญชีส่วนตัวของเขาในเดือนก.ค. 2557