ฟู่ ชง ผู้แทนถาวรของจีนประจำสหประชาชาติ (UN) กล่าวเมื่อวันอังคาร (24 มิ.ย.) ว่า สหรัฐฯ คือผู้ที่เริ่มต้นวิกฤตนิวเคลียร์อิหร่าน เพื่อตอบโต้ข้อกล่าวหาจากบางประเทศสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคง (UNSC) ที่ระบุว่าอิหร่านละเมิดพันธกรณีด้านการไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์
ฟู่ ชง ระบุว่า บางประเทศใน UNSC พยายามใช้ข้อกล่าวหาดังกล่าวเพื่อสร้างความชอบธรรมให้แก่การใช้ปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลและสหรัฐฯ แต่ข้อเท็จจริงคือ สหรัฐฯ ได้ถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านแต่เพียงฝ่ายเดียวในปี 2561 และกลับมาใช้มาตรการคว่ำบาตร รวมถึงมาตรการ "กดดันขั้นสูงสุด" ซึ่งบีบให้อิหร่านต้องลดระดับการปฏิบัติตามพันธกรณีในข้อตกลง
"จีนขอเตือนทุกฝ่ายถึงข้อเท็จจริงพื้นฐานว่า สหรัฐอเมริกานั่นเองที่เป็นผู้ก่อวิกฤตนิวเคลียร์อิหร่าน" ฟู่ ชง กล่าวย้ำ
นอกจากนี้ ฟู่ ชง ยังระบุว่า สหรัฐฯ เป็นฝ่ายที่ลดทอนความน่าเชื่อถือของตนเองด้วยการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน ซึ่งเป็นการบ่อนทำลายกระบวนการเจรจาที่ตนเองริเริ่ม ส่งผลให้ประเด็นนิวเคลียร์อิหร่านต้องหยุดชะงักและสถานการณ์ในภูมิภาคทวีความรุนแรงขึ้นอย่างฉับพลัน
ทั้งนี้ ฟู่ ชง เสริมว่า จนถึงขณะนี้ อิหร่านยังคงปฏิบัติตามพันธกรณีด้านการไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ และดำเนินการตามข้อตกลงตรวจสอบความปลอดภัยอย่างครบถ้วน โดยได้ยืนยันหลายครั้งว่าไม่มีความประสงค์จะพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์