องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) เสร็จสิ้นการประชุมสุดยอดที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ในวันนี้ (25 มิ.ย.) โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบต่อการเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหมสู่ระดับ 5% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ภายในปี 2578 หรือภายใน 10 ปีข้างหน้า
ทั้งนี้ แถลงการณ์ระบุว่า เป้าหมายใหม่นี้จะแบ่งออกเป็น 2 หมวดหลัก ได้แก่ การเพิ่มงบประมาณ 3.5% ของ GDP เพื่อการป้องกันสำหรับกิจการกลาโหมที่เป็นแกนหลัก และการเพิ่มอีก 1.5% สำหรับโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ เครือข่าย และศักยภาพของอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ โดยแผนดังกล่าวจะมีการทบทวนในปี 2572 โดยคำนึงถึงสภาพแวดล้อมเชิงยุทธศาสตร์และเป้าหมายด้านศักยภาพ
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ กล่าวชื่นชมข้อตกลงดังกล่าว โดยย้ำว่าสหรัฐเป็นผู้แบกรับภาระค่าใช้จ่ายด้านกลาโหมของนาโตมาเป็นเวลานานเกินไป
อย่างไรก็ตาม ปธน.ทรัมป์ได้กล่าวตำหนิสเปนว่าเป็นเพียงประเทศเดียวที่ปฏิเสธการปฏิบัติตามข้อตกลงอย่างเต็มรูปแบบ โดยกล่าวว่า สหรัฐกำลังเจรจาข้อตกลงทางการค้ากับสเปน และเตือนว่าสเปนอาจจะต้องจ่ายเป็น 2 เท่าด้วยมาตรการทางการค้า
ทั้งนี้ นายเปโดร ซานเชซ นายกรัฐมนตรีสเปน ประกาศเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า สเปนได้ตกลงร่วมกับนาโตที่จะจำกัดงบประมาณกลาโหมไว้ที่ 2.1% ของ GDP
นายซานเชซกล่าวว่า การเร่งเพิ่มงบประมาณไปถึง 5% จะทำให้ราคาสินค้าและการใช้จ่ายสาธารณะเพิ่มสูงขึ้น และลดทอนการลงทุนในภาคสำคัญ เช่น การศึกษาและการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล
"เป้าหมาย 5% เป็นสิ่งที่เกินขอบเขตและไม่มีความจำเป็นสำหรับสเปน โดยสเปนเป็น 1 ใน 5 ประเทศของนาโตที่มีการส่งกำลังทหารไปปฏิบัติภารกิจมากที่สุดในโลก และความแตกต่างภายในนาโตเป็นเรื่องปกติและหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากพันธมิตรต่างก็มีสภาวะเศรษฐกิจที่แตกต่างกัน" นายซานเชซกล่าว