สำนักข่าวเกียวโดรายงานเมื่อวานนี้ (8 ก.ค.) โดยอ้างเจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ผู้ไม่ขอเปิดเผยนามว่า สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ มีกำหนดเดินทางเยือนญี่ปุ่นในสัปดาห์หน้า เพื่อเข้าร่วมงานมหกรรมเวิลด์เอ็กซ์โป (World Expo) ที่นครโอซาก้า ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้า หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เพิ่งประกาศจะขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากญี่ปุ่น 25% ในวันที่ 1 ส.ค. นี้
ทั้งนี้ สหรัฐฯ จะจัดงานเฉลิมฉลองวันชาติในวันที่ 19 ก.ค. ซึ่งเป็นวันจัดอีเวนต์พิเศษเพื่อโปรโมตสหรัฐฯ ในงานมหกรรมเวิลด์เอ็กซ์โปดังกล่าว
การเยือนครั้งนี้เกิดขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังจากที่ปธน.ทรัมป์ประกาศว่าสหรัฐฯ จะบังคับใช้ภาษีศุลกากร 25% กับสินค้านำเข้าจากญี่ปุ่น โดยเบสเซนต์ถือเป็นบุคคลสำคัญในการเจรจาเรื่องกำแพงภาษีกับญี่ปุ่นที่กำลังดำเนินอยู่
อย่างไรก็ดี ท่ามกลางการเจรจาที่ดูเหมือนจะหยุดชะงัก ยังไม่มีความชัดเจนว่าเบสเซนต์จะได้เข้าพบกับเรียวเซ อาคาซาวะ หัวหน้าผู้แทนเจรจาด้านภาษีของญี่ปุ่น หรือเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่น ๆ ของญี่ปุ่นหรือไม่
การเดินทางครั้งนี้จะถือเป็นการเยือนญี่ปุ่นครั้งแรกของเบสเซนต์ นับตั้งแต่ปธน.ทรัมป์กลับเข้าสู่ทำเนียบขาวเพื่อดำรงตำแหน่งสมัยที่ 2 ในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้ ญี่ปุ่นกับสหรัฐฯ ได้เจรจากันในระดับรัฐมนตรีมาแล้ว 7 ครั้ง และทุกครั้งเป็นฝ่ายอาคาซาวะที่ต้องเดินทางไปยังกรุงวอชิงตัน
จากการเยือนญี่ปุ่นครั้งนี้ มีแนวโน้มว่าเบสเซนต์จะต้องพลาดการประชุมรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางกลุ่ม G20 ที่จะจัดขึ้นในแอฟริกาใต้ในสัปดาห์หน้า
ในจดหมายที่ปธน.ทรัมป์ส่งถึงนายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ ของญี่ปุ่น และโพสต์ฉบับเต็มลงบนโซเชียลมีเดียเมื่อวันจันทร์ ระบุว่า "โปรดเข้าใจว่าตัวเลข 25% นี้น้อยกว่าที่จำเป็นมากนักต่อการขจัดความเหลื่อมล้ำด้านการขาดดุลการค้าที่เรามีต่อประเทศของท่าน"
อัตราภาษี 25% ดังกล่าวสูงกว่าที่ปธน.ทรัมป์ประกาศไว้ในตอนแรกเมื่อวันที่ 2 เม.ย. อยู่ 1% ซึ่งทำให้นายกฯ อิชิบะ ออกมากล่าวว่า การกระทำของปธน.สหรัฐฯ "น่าเสียใจอย่างแท้จริง"
นอกเหนือจากญี่ปุ่น ปธน.ทรัมป์ยังได้ส่งจดหมายแจ้งอัตราภาษีใหม่ไปยังอีก 13 ประเทศ ซึ่งรวมถึงอินโดนีเซีย ไทย และเกาหลีใต้ พร้อมขยายเวลาผ่อนผันออกไปจนถึงวันที่ 1 ส.ค. เพื่อเรียกร้องให้ทุกประเทศเร่งหาข้อประนีประนอมก่อนที่กำแพงภาษีใหม่จะมีผลบังคับใช้
ระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอังคาร ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า "เงินจำนวนมหาศาล" ได้เริ่มไหลเข้าสู่สหรัฐฯ แล้วจากยุทธศาสตร์ด้านภาษีของเขา "เราไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน เราไม่คุ้นเคยกับมัน เงินก้อนใหญ่จะเริ่มเข้ามาในวันที่ 1 ส.ค.นี้"
หลังได้รับจดหมายดังกล่าว อาคาซาวะ รัฐมนตรีฟื้นฟูเศรษฐกิจของญี่ปุ่น ได้ต่อสายตรงพูดคุยกับเบสเซนต์เป็นเวลาประมาณ 30 นาที โดยรัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่าทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะ "ปรึกษาหารืออย่างเข้มข้น" ต่อไป และยังได้พูดคุยกับโฮเวิร์ด ลุตนิก รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ เพื่อผลักดันการเจรจาให้คืบหน้าเช่นกัน