รัฐมนตรีการค้าของประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) กำลังประชุมร่วมกัน ณ กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ในวันนี้ (14 ก.ค.) หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ประกาศเรียกเก็บภาษีศุลกากรจาก EU ในอัตรา 30% โดยมีผลในวันที่ 1 ส.ค.นี้
ลาร์ส ล็อกเก ราสมุสเซน รัฐมนตรีต่างประเทศเดนมาร์ก กล่าวกับผู้สื่อข่าวก่อนการประชุมว่า "เราไม่ควรดำเนินมาตรการตอบโต้ใด ๆ ในระยะนี้ แต่เราควรเตรียมพร้อมที่จะใช้ทุกเครื่องมือที่มี" พร้อมกับเสริมว่า "เราต้องการข้อตกลง แต่โบราณว่าเอาไว้ หากต้องการสันติภาพ จงเตรียมพร้อมสู่สงคราม"
เมื่อวานนี้ (13 ก.ค.) EU ได้ตัดสินใจระงับมาตรการตอบโต้ทางภาษีต่อสหรัฐฯ ออกไปจนถึงวันที่ 1 ส.ค. จากเดิมที่กำหนดไว้ว่าจะมีผลบังคับใช้ในวันนี้ (14 ก.ค.) โดยหวังว่าจะบรรลุข้อตกลงการค้ากับรัฐบาลทรัมป์ภายในสิ้นเดือนนี้
เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ซึ่งดูแลนโยบายการค้าของ 27 ชาติสมาชิก กล่าวว่า EU จะยังคงดำเนินนโยบายสองแนวทาง คือเปิดโต๊ะเจรจาควบคู่ไปกับการเตรียมมาตรการตอบโต้
ทั้งนี้ มาตรการภาษีศุลกากรของทรัมป์จะทำให้ข้าวของทุกอย่างจาก EU มีราคาแพงขึ้นในสหรัฐฯ ซึ่งจะส่งผลกระทบในวงกว้างทั้งต่อภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้บริโภคของทั้งสหรัฐฯ และ EU