ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันอังคาร (15 ก.ค.) ว่า สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ถือเป็น "ตัวเลือกหนึ่ง" ที่จะมาทำหน้าที่แทนเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) แต่ก็ปัดตกแนวคิดดังกล่าวแทบจะในทันที โดยให้เหตุผลว่าพอใจกับผลงานของเบสเซนต์ในตำแหน่งปัจจุบัน
"อืม ... แต่เขาคงไม่ได้เป็นหรอก เพราะผมชอบงานที่เขาทำอยู่ ใช่ไหมล่ะ" ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าว
คำกล่าวนี้ถือเป็นอีกครั้งหนึ่งที่ทรัมป์ได้วิพากษ์วิจารณ์พาวเวล ซึ่งมีมาอย่างยาวนานในประเด็นที่ว่า ประธานเฟดคนปัจจุบันผู้นี้ไม่ยอมปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง
ในวันเดียวกันนี้ ทรัมป์ยังได้เปรยขึ้นมาอีกว่า ตนอาจปลดพาวเวลออกจากตำแหน่งได้ โดยยกเหตุผลเรื่องค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงอาคารสำนักงานใหญ่ของเฟดที่บานปลายเกินงบประมาณ
อย่างไรก็ดี ประธานาธิบดีไม่สามารถปลดประธานเฟดออกจากตำแหน่งได้ด้วยเหตุผลความขัดแย้งด้านนโยบายการเงิน ทั้งนี้ ทรัมป์เองเป็นผู้แต่งตั้งพาวเวล ซึ่งสังกัดพรรครีพับลิกัน ในช่วงที่ทรัมป์ดำรงตำแหน่งปธน.สมัยแรก ก่อนที่พาวเวลจะได้รับการแต่งตั้งอีกครั้งในสมัยของปธน.โจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต
ในสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันที่อัตราการว่างงานอยู่ในระดับต่ำ แต่ภาวะเงินเฟ้อยังคงอยู่เหนือระดับ 2% ซึ่งเป็นเป้าหมายที่เฟดตั้งไว้นั้น บรรดาคณะกรรมการของเฟดจึงแสดงท่าทีลังเลที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยจากระดับปัจจุบันที่ 4.25%-4.5% โดยให้เหตุผลว่า มีความกังวลว่านโยบายกำแพงภาษีของทรัมป์อาจเป็นชนวนให้ราคาสินค้าพุ่งสูงขึ้นระลอกใหม่ได้
สำหรับบุคคลอื่นที่อาจได้รับการพิจารณาให้ดำรงตำแหน่งแทนพาวเวล ซึ่งจะครบวาระในเดือนพ.ค. 2569 นั้น ประกอบด้วยเควิน วอร์ช อดีตผู้ว่าการเฟด และเควิน แฮสเส็ตต์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ ขณะที่เบสเซนต์เองก็ได้ยืนยันกับสำนักข่าวบลูมเบิร์กแล้วว่า "กระบวนการอย่างเป็นทางการ" เพื่อสรรหาผู้สืบทอดตำแหน่งได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว