รู้จัก "ซันเซโตะ" พรรคขวาจัดผู้ผงาดในสนามเลือกตั้งญี่ปุ่น ด้วยวาทกรรมต้านผู้อพยพ

พรรคซันเซโตะ (Sanseito) ซึ่งเคยเป็นเพียงพรรคการเมืองขวาจัดนอกกระแส กลายเป็นผู้ชนะรายใหญ่ที่สร้างแรงสั่นสะเทือนในการเลือกตั้งวุฒิสภาญี่ปุ่นเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (20 ก.ค.) หลังกวาดคะแนนเสียงจากคำเตือนเรื่องการรุกรานของผู้อพยพ ควบคู่ไปกับนโยบายลดภาษีและเพิ่มสวัสดิการ

พรรคซันเซโตะก่อตั้งขึ้นในช่วงการระบาดของโควิด-19 โดยเริ่มจากการเผยแพร่ทฤษฎีสมคบคิดเกี่ยวกับวัคซีนและกลุ่มอภิสิทธิ์ชนที่ควบคุมโลก ก่อนจะสามารถแทรกตัวเข้าสู่การเมืองกระแสหลักได้สำเร็จด้วยแคมเปญ "ญี่ปุ่นต้องมาก่อน" (Japanese First)

ผลการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคฯ คว้าที่นั่งเพิ่มในวุฒิสภาได้ถึง 14 ที่นั่ง ทำให้มีสมาชิกรวมเป็น 15 คน จากเดิมที่มีเพียง 1 คนเมื่อ 3 ปีก่อน อย่างไรก็ตาม พรรคยังมีที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรซึ่งมีอำนาจมากกว่าเพียง 3 ที่นั่งเท่านั้น

โซเฮ คามิยะ หัวหน้าพรรคฯ วัย 47 ปี ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์นิปปอนทีวีว่า "วลีญี่ปุ่นต้องมาก่อนมีจุดประสงค์เพื่อฟื้นฟูชีวิตความเป็นอยู่ของคนญี่ปุ่นผ่านการต่อต้านกระแสโลกาภิวัตน์ ผมไม่ได้บอกว่าเราควรแบนชาวต่างชาติโดยสิ้นเชิง หรือขับไล่ชาวต่างชาติทุกคนออกจากญี่ปุ่น"

ชัยชนะของซันเซโตะเกิดขึ้นในขณะที่พรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ของนายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ และพรรคโคเมโตะ (Komeito) ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ได้สูญเสียเสียงข้างมากในวุฒิสภาไป ทำให้รัฐบาลต้องพึ่งพาเสียงสนับสนุนจากฝ่ายค้านมากขึ้น

นักวิเคราะห์การเมืองชี้ว่า สารของคามิยะสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่กำลังผิดหวังกับภาวะเศรษฐกิจซบเซาและค่าเงินเยนที่อ่อนตัว ซึ่งแม้จะดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นประวัติการณ์ แต่ก็ผลักดันให้ค่าครองชีพสูงขึ้นจนคนญี่ปุ่นจำนวนมากแบกรับไม่ไหว

แม้ประเด็นผู้อพยพจะกลายเป็นหัวหอกของพรรค แต่ผลสำรวจก่อนการเลือกตั้งโดยสถานีโทรทัศน์ NHK พบว่า สิ่งที่ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งกังวลมากที่สุดคือเรื่องสวัสดิการสังคมและอัตราการเกิดที่ลดลง (29%) ตามมาด้วยราคาข้าวที่พุ่งสูงขึ้น (28%) ส่วนประเด็นผู้อพยพอยู่ในอันดับ 5 ร่วม ด้วยคะแนนเพียง 7%

ปัจจุบัน จำนวนชาวต่างชาติที่อาศัยในญี่ปุ่นมีจำนวนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ประมาณ 3.8 ล้านคนในปีที่แล้ว แต่ตัวเลขดังกล่าวยังคิดเป็นเพียง 3% ของประชากรทั้งหมด ซึ่งเป็นสัดส่วนที่น้อยมากเมื่อเทียบกับสหรัฐฯ และยุโรป

อิทธิพลของซันเซโตะได้เริ่มส่งผลให้การเมืองญี่ปุ่นขยับไปทางขวามากขึ้นแล้ว โดยไม่กี่วันก่อนการเลือกตั้ง รัฐบาลของนายกฯ อิชิบะ ได้ประกาศจัดตั้งหน่วยงานเฉพาะกิจเพื่อต่อสู้กับอาชญากรรมและความไม่เป็นระเบียบที่ก่อโดยชาวต่างชาติ และพรรค LDP ยังได้ให้คำมั่นถึงเป้าหมาย "ชาวต่างชาติผิดกฎหมายเป็นศูนย์"

แม้คามิยะจะพยายามลดทอนภาพลักษณ์ที่แข็งกร้าวลง แต่ในระหว่างการหาเสียง เขาก็เคยถูกวิจารณ์อย่างหนักจากการที่ระบุว่านโยบายความเท่าเทียมทางเพศเป็นความผิดพลาดที่ส่งเสริมให้ผู้หญิงออกไปทำงานและทำให้พวกเธอมีลูกน้อยลง เพื่อลดภาพลักษณ์เลือดร้อนและขยายฐานเสียงให้กว้างขึ้นนอกเหนือจากกลุ่มผู้ชายวัย 20-30 ปีที่เป็นฐานเสียงหลักของพรรคฯ คามิยะจึงส่งผู้สมัครหญิงจำนวนมากลงแข่งขัน ซึ่งรวมถึงนักร้องชื่อดังอย่างซายะ ที่คว้าที่นั่งในกรุงโตเกียวได้สำเร็จ

จุดแข็งสำคัญที่ทำให้ซันเซโตะแตกต่างจากพรรคอื่นคือพลังในโลกออนไลน์ ช่องยูทูบของพรรคมีผู้ติดตามกว่า 400,000 คน ซึ่งมากกว่าทุกพรรคการเมือง และมากกว่าพรรค LDP ถึง 3 เท่า

คามิยะกล่าวว่า ชัยชนะในวุฒิสภาครั้งนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้น "เรากำลังค่อย ๆ เพิ่มจำนวนสมาชิกสภา และทำตามความคาดหวังของประชาชน เมื่อเราสร้างองค์กรที่แข็งแกร่งและมีที่นั่งได้ 50-60 ที่นั่ง ผมเชื่อว่านโยบายของเราจะกลายเป็นความจริงได้ในที่สุด"