รัฐบาลบราซิลประกาศเมื่อวันพุธ (23 ก.ค.) ว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการเข้าร่วมคดีที่แอฟริกาใต้ยื่นฟ้องอิสราเอลเกี่ยวกับความรุนแรงในฉนวนกาซา ต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ)
กระทรวงการต่างประเทศบราซิลระบุในแถลงการณ์ว่า "รัฐบาลบราซิลขอประกาศว่า ขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการยื่นขอแทรกแซงอย่างเป็นทางการต่อศาล ICJ ในคดีที่แอฟริกาใต้ยื่นฟ้องภายใต้อนุสัญญาว่าด้วยการป้องกันและการลงโทษอาชญากรรมการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์"
แถลงการณ์ยังระบุว่า "รัฐบาลบราซิลแสดงความไม่พอใจอย่างยิ่งต่อเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องกับพลเรือนชาวปาเลสไตน์ ซึ่งไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะในฉนวนกาซาเท่านั้น แต่ยังขยายไปถึงเขตเวสต์แบงก์"
นอกจากนี้ กระทรวงฯ กล่าวหาอิสราเอลว่าละเมิดสิทธิมนุษยชนและกฎหมายมนุษยธรรมอย่างร้ายแรง รวมถึงการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานพลเรือน ศาสนสถาน และสถานที่ของสหประชาชาติ (UN) รวมทั้งกล่าวถึงเหตุการณ์ใช้ความรุนแรงและการทำลายข้าวของโดยผู้ตั้งถิ่นฐานหัวรุนแรงในเขตเวสต์แบงก์ และการสังหารหมู่พลเรือนระหว่างการส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในกาซา
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ย้อนกลับไปเมื่อเดือนธ.ค. 2566 แอฟริกาใต้ได้ยื่นคำร้องต่อศาล ICJ เพื่อขอให้ศาลออกคำสั่งให้อิสราเอลยุติปฏิบัติการโจมตีปาเลสไตน์ พร้อมประกาศว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ โดยในเดือนม.ค. 2567 ศาลได้มีคำสั่งให้อิสราเอลดำเนินมาตรการทุกวิถีทางเพื่อป้องกันการกระทำที่เข้าข่ายฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และรับรองว่าความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจะสามารถเข้าถึงฉนวนกาซาได้
ทั้งนี้ นับตั้งแต่อิสราเอลกลับมาเปิดปฏิบัติการโจมตีกาซาอีกครั้งเมื่อวันที่ 18 มี.ค. ตัวเลขผู้เสียชีวิตในฉนวนกาซาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขในกาซาระบุว่า มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตอย่างน้อย 7,750 ราย ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตรวมตั้งแต่เกิดความขัดแย้งเมื่อเดือนต.ค. 2566 พุ่งแตะ 58,573 รายแล้ว