สื่อกัมพูชา Khmer Times รายงานในวันนี้ (24 ก.ค.) ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต แห่งกัมพูชา ได้เรียกร้องให้ประชาชนชาวกัมพูชาอยู่ในความสงบและเชื่อมั่นอย่างเต็มที่ต่อรัฐบาลและกองทัพ ซึ่งกำลังทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของชาติอย่างเต็มกำลัง ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดกับประเทศไทยที่ทวีความรุนแรงขึ้น
สื่อกัมพูชารายงานว่า คำประกาศดังกล่าวมีขึ้นหลังจากกองทัพไทยได้เปิดฉากโจมตีที่มั่นทางทหารของกัมพูชาบริเวณปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควายในจังหวัดอุดรมีชัย และได้ขยายการโจมตีเข้าไปในพื้นที่มอมเบย จังหวัดพระวิหาร
"กัมพูชายึดมั่นในหลักการแก้ปัญหาความขัดแย้งโดยสันติวิธีมาโดยตลอด" นายกฯ ฮุน มาเนต กล่าว "แต่ในสถานการณ์เช่นนี้ เราไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากใช้กำลังทหารตอบโต้การรุกรานด้วยอาวุธ"
นายกฯ ฮุน มาเนต ยืนยันว่ารัฐบาลกัมพูชา กระทรวง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกองทัพ กำลังทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน และผลประโยชน์ของชาติอย่างเต็มกำลังและกล้าหาญ ทั้งในสมรภูมิรบและในเวทีการทูต ขณะเดียวกัน ทางการยังกัมพูดชาได้ให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการรุกล้ำของฝ่ายไทย
ขณะเดียวกัน สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน ประธานวุฒิสภา ได้ออกมาส่งสารเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนเช่นกัน โดยเรียกร้องให้ทุกคนอยู่ในความสงบและหลีกเลี่ยงการกระทำที่อาจสร้างความตื่นตระหนกโดยไม่จำเป็น หรือส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ
"เราขอให้พี่น้องประชาชนชาวกัมพูชาทุกท่านอย่าตื่นตระหนก ไม่ต้องกักตุนข้าวของหรือสินค้า และอย่าฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าที่จำเป็น" ฮุน เซน ระบุในโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเมื่อช่วงเช้านี้
ฮุน เซน ยืนยันว่ากองทัพไทยเป็นฝ่ายเริ่มโจมตีกองกำลังกัมพูชาก่อน หลังจากที่ได้เข้ายึดครองและปิดปราสาทตาเมือนธมแต่เพียงฝ่ายเดียว ทำให้กองทัพกัมพูชาจำเป็นต้องปฏิบัติการตอบโต้กลับไป
"ขอให้ทุกท่านโปรดใช้ชีวิตและทำกิจกรรมต่าง ๆ ตามปกติในทุกภาคส่วน ยกเว้นในเขตชายแดนจังหวัดอุดรมีชัยและจังหวัดพระวิหารซึ่งเป็นพื้นที่สู้รบ" ฮุน เซน กล่าว "ขอให้เชื่อมั่นในรัฐบาลและกองทัพของเรา"
อนึ่ง เหตุการณ์นี้นับเป็นความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาที่รุนแรงที่สุดในรอบกว่าทศวรรษ